เจอร์เก้น คล็อปป์ กระตุ้นลิเวอร์พูล อย่ากังวลเกี่ยวกับฟอร์มการเล่นในบ้านที่ผ่านมา มากจนเกินไป เมื่อเผชิญหน้ากับบอร์กโดซ์ โดยยืนยันว่า เขามองเห็นสัญญาณบวกมากมาย ว่าผลการแข่งขันที่ดีอยู่ไม่ไกลจากนี้

หงส์แดงจะก้าวสู่เกมยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ในวันพฤหัสบดีนี้ ด้วยการคว้าชัยชนะได้เพียงสามเกม จาก 10 เกม ในแอนฟิลด์ ฤดูกาลนี้

และเกมล่าสุดในสนามเหย้าสำหรับทีมของคล็อปป์ คือเกมบาร์เคลย์ส พรีเมียร์ลีก กับคริสตัล พาเลซ ซึ่งจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของเจ้าบ้าน 2-1 อย่างสุดเซอร์ไพรส์

ในทางกลับกัน ทั้งเชลซี และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับต้องพ่ายแพ้ให้กับหงส์แดงอย่างราบคาบ ในเกมเยือนสองเกม ก่อนที่จะกลับสู่การแข่งขันเกมยุโรปในสัปดาห์นี้

แต่ในการแถลงข่าวก่อนเกมต้อนรับการมาเยือนของบอร์กโดซ์ ผู้จัดการทีมเปิดเผยว่า เขามีความกังวลสองถึงสามข้อ เกี่ยวกับฟอร์มการเล่นเกมเหย้าของทีมของเขา

"โดยปกติแล้ว ในฟุตบอล มันไม่ได้เป็นความแตกต่างอย่างที่สุด (ระหว่างเกมเหย้า และเกมเยือน) และคุณไม่ควรสร้างประเด็นเรื่องฟอร์มการเล่นในบ้านมากจนเกินควร" คล็อปป์กล่าว

"พวกเรารู้เกี่ยวกับผลการแข่งขัน แต่มันก็แค่นั้น สิ่งที่เราต้องปรับปรุงเป็นอย่างแรก คือฟอร์มการเล่นของเรา และนั่นคือสิ่งที่เราทำเมื่อหลายสัปดาห์ที่แล้ว"

"ฟุตบอลเป็นเกมที่เน้นผลการแข่งขัน และทุกคนก็พูดถึงผลการแข่งขันในเกมกับพาเลซ และผมได้ยินว่า คริสตัล พาเลซ สมควรเป็นผู้ชนะ"

"ถ้าหากพวกเขาทำได้สองประตู และคุณทำได้ประตูเดียว นั่นมันก็อาจจะถูก แต่คุณได้ดูเกม และมีเพียงแค่ 15 นาทีแรกเท่านั้นที่แย่ ที่เหลือมันก็โอเค หรือดีขึ้น โดยปกติ มันก็เพียงพอที่จะได้ชัยชนะ"

"หลายอย่างที่เราได้เห็นในเกมนี้ ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อน ช่วง 30 นาทีหลังจากเกมเริ่มนั้นดีขึ้น และนั่นคือสิ่งที่คุณต้องนำมาใช้ในการพัฒนาอีกยาวไกล"

"เราต้องพูดคุยถึงสิ่งที่แย่ๆ แต่ก็ต้องพูดถึงสิ่งที่ดีๆ ด้วยเช่นกัน และเก็บเอาสิ่งที่ดีๆ เหล่านั้น และพยายามนำไปใช้ในเกมต่อไป"

"มันไม่ใช่ข้อแตกต่างที่สำคัญที่สุด ระหว่างเกมเหย้าและเกมเยือน และมันหมายความว่า เรากำลังเข้าสู่แนวทางที่ดี ในการเล่นได้ดีขึ้นในเกมเหย้า"

"เราสร้างสรรค์โอกาสได้มากมาย นั่นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด มันไม่ง่ายนักที่จะเล่นกับเรา เราเสียประตูส่วนใหญ่จากลูกตั้งเตะ มันไม่ใช่เรื่องง่าย ที่จะสร้างสรรค์โอกาสการทำประตู เมื่อเผชิญหน้ากับเรา"

"นั่นคือสิ่งสำคัญ ดังนั้น คุณก็จะมีความมั่นคงมากขึ้น และคุณสามารถเล่นฟุตบอลของตัวเองได้ และนั่นคือสิ่งที่เราพยายามทำ"

"ความเข้มข้นของเกมในทัวร์นาเมนต์เหล่านี้ บางครั้ง คุณก็ต้องยอมรับผลการแข่งขันที่ไม่เป็นใจบ้าง และผมคงจะพูดได้ว่า คริสตัล พาเลซ เป็นยิ่งกว่านั้น เพราะเหตุผลนี้ มากกว่าจะเป็นอย่างอื่น"

"นอกจากนี้ เราต้องเรียนรู้วิธีการจัดการกับมัน สิ่งที่เรามีในทีมนี้ ไม่ใช่ประสบการณ์ครั้งใหญ่ที่สุดสำหรับเรื่องนี้"

"นั่นคือทั้งหมดที่เราทำ แต่เรารู้ดีว่า อะไรคือสิ่งที่เราต้องทำในวันพรุ่งนี้"

เกมถล่มแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ให้ทั้งผลการแข่งขันและฟอร์มการเล่นซึ่งอาจกล่าวได้ว่ายอดเยี่ยมที่สุด นับตั้งแต่การเข้ามากุมบังเหียนของคล็อปป์

อย่างไรก็ตาม โค้ชชาวเยอรมันมั่นใจว่าลูกทีมจะทำได้ดีกว่านี้ในอนาคต ในขณะที่ปรับตัวกับวิถีต่างๆ ของเขาอย่างต่อเนื่อง "เรามาที่นี่พร้อมด้วยไอเดียฟุตบอลอีกอย่างหนึ่ง นั่นคือข้อเท็จจริง" เขากล่าวเพิ่ม

"ตอนนี้เราพยายามซักซ้อมในสิ่งนี้ และในท้ายที่สุด มันขึ้นอยู่กับนักเตะว่าต้องการทำสิ่งนี้หรือไม่ เพราะผมไม่สามารถบังคับพวกเขาให้ทำภายใต้การกดดัน"

"นักเตะต่างๆ เข้าใจว่าทำไมการทำสิ่งต่างๆ มากขึ้น ถึงดีกว่า แต่การทำเพิ่มขึ้น ก็ไม่ใช่คำตอบเสมอไป มันเป็นเพียงการทำสิ่งที่ถูกต้อง ถูกเวลา นี่คือประเด็นที่เราพยายามจะทำให้ดีขึ้น และยิ่งดีขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา"

"นั่นคือสิ่งที่คุณได้เห็นที่แมนฯ ซิตี้ แต่มันก็ยังไม่สมบูรณ์แบบ"

"มีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมต่างๆ แต่มันยังห่างไกลมากๆ กับความสมบูรณ์แบบ ผลจบนั้นยอดเยี่ยม แต่ก็ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราสามารถทำให้ดีกว่านี้"

"เมื่อเราได้ทำงานด้วยกันยาวนานกว่านี้ ซ้อมด้วยกันยาวนานมากกว่านี้ นั่นคือทุกสิ่งทุกอย่างที่เหล่านักเตะต้องทำ"

บอสทีมหงส์แดงยังแบ่งปันความคิดเห็นถึงวิลลี ซาญอล ที่เคยเป็นดาวเตะทีมบาเยิร์น มิวนิค ก่อนจะมารับบทบาทคุมทีมข้างสนาม ซึ่งคล็อปป์กล่าวว่า ผู้จัดการทีมของทั้งสองทีม จะไม่มีอิทธิพลต่อผลการแข่งขัน มากไปกว่าเหล่านักเตะ

"วิลลี ซาญอล เป็นหนึ่งในนักเตะฟูลแบ็กที่ดีที่สุดที่ผมเคยเห็นมา" เขากล่าวต่อ

"ในบางครั้ง เขาเล่นฟุตบอลแบบสไตล์เยอรมัน ไม่ว่าจะเรียกว่าอะไรก็ตาม! แน่นอนว่า ผมรู้จักเขาในฐานะนักเตะ มากกว่าในฐานะผู้จัดการทีม เพราะว่าเรายังไม่เคยเจอกันในการคุมทีมข้างสนาม"

"ด้วยความสัตย์จริง ผมยังไม่เคยเห็นบอร์กโดซ์เล่นเท่าไหร่ ก่อนที่ผมจะรู้ว่าเราจะได้แข่งกับพวกเขา ตอนนี้ผมรู้มากขึ้นแล้ว"

"แต่ผมคิดว่า มันไม่สำคัญเท่าไหร่ว่าใครจะเป็นคนคุมทีมอยู่ข้างสนาม"

"นักเตะจะเป็นผู้ตัดสินผลการแข่งขัน ซาญอลเป็นฟูลแบ็กระดับโลก ส่วนผมเป็นนักเตะฟูลแบ็กนอกลีก เราจะมาดูกันว่าอะไรจะได้ผลมากกว่ากัน"

พันทิวา ศรีประสงค์, จีรวรรณ ด้วงนาม แฮร์เรียต