ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เลสเตอร์ ซิตี้ 3-1 ลิเวอร์พูล
สนาม คิง พาวเวอร์ สเตเดียม
คืนวันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2560
เป็นการเปิดตัวที่ยอดเยี่ยมของนายใหญ่รักษาการณ์อย่าง เช็คสเปียร์ และบอลเปลี่ยนโค้ชของทาง จิ้งจอก นั้นถือว่าน่ากลัวจริง ๆ ทาง ลิเวอร์พูล เองก็งหาฟอร์มเก่งคงเส้นคงวาไม่เจอซึ่งไม่สามารถเอาชนะทีมเล็กกว่าในปีนี้ได้เลยสำหรับเกม พรีเมียร์ลีก โดยชนะแค่ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ทีมเดียวเท่านั้นหากนับตั้งแต่ต้นปี 2017 เป็นต้นมา
เริ่มเกมมาได้แค่ 7 นาที ทีมเจ้าบ้านมีลุ้นก่อนจากจังหวะ เจมี วาร์ดี้ ซัดบอลจากนอกกรอบเขตโทษ มาเขตโทษ บอลติดบล็อกมาเข้าทาง โอกาซากิ โหม่งบอลสะบัดเข้ามุมแต่ทาง มิโญเลต์ ล้มตัวปัดออกไปได้
นาทีที่ 15 อัลไบรท์ตัน เปิดลูกเตะมุมมาให้ โรเบิร์ต ฮูธ ขึ้นโหม่ง แต่บอลไม่ตรงกรอบออกหลังไป
จิ้งจอก ยังครองเกมบุกอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 20 ฮูธ เปิดบอลสาดยาวเข้ามาในกรอบเขตโทษ หงส์แดง ทาง ลูคัส เลวา ปล่อยบอลตกพื้น เป็นทาง วาร์ดี้ โฉบบอลไปยิงแต่ตรงตัวของนายด่าน เบลเยียม ปัดออกไปได้
เจ้าบ้านได้เฮ ! นาทีที่ 28 เมื่อกองกลาง ลิเวอร์พูล พลาดส่งบอลโดนตัดได้ไปเข้าทาง อัลไบรท์ตัน แอสซิสต์บอลจากกลางสนามให้ วาร์ดี้ วิ่งทะลุกองหลัง หงส์แดง เข้าไปดวยหนึ่งต่อหนึ่งกับ มินนี่ แปลบอลเล่นทางขวาสวนตัวเข้าไป เลสเตอร์ ขึนนำก่อน 1-0
จากนั้นในนาทีต่อมาหลังเขี่ยบอล หงส์แดง ได้โอกาสทันทีจาก คูตินโญ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายของเจ้าบ้าน แล้วยิงบอลด้วยเท้าข้างที่ไม่ถนัดติดเซฟของ ชไมเคิล
จากนั้น จิ้งจอก ได้เฮอีกครั้งเมื่อ เจมส์มิลเนอร์ เคลียบอลจากกรอบเขตโทษไปเข้าทาง ดริงค์วิเตอร์ นอกกรอบเขตโทษวิ่งมาซัดเต็มข้อบอลพุ่งเข้าไปอย่างสวยงามชนิดที่ มิโญเลต์ ไม่ได้ล้มตัวเซฟ เลสเตอร์ นำ ลิเวอร์พูลห่าง เป็น 2-0 ก่อนหมดครึ่งเวลาแรก
เข้าสู้ครึ่งหลังในนาทีที่ 54 ทีมเยือนได้ลุ้นบ้างจากจังหวะที่ คูตินโญ ได้ลองสับไกนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลไม่หนีนายด่านเจ้าบ้านเท่าไหร่ ล้มตัวเซฟเอาไว้ได้สบาย
คนเดิม ! เข้าสู่นาทีที่ 60 ของเกม เจ้าบ้านได้เฮอีกแล้วจากจังหวะที่ ฟุชส์ เปิดบอลด้วยขวาจากนอกกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายเข้าไปลุ้นด้านใน เจมี วาร์ดี้ ขึ้นเทคตัวเอาชนะกองหลัง หงส์แดง โหม่งบอลเข้ามุมแบบที่ มิโญเลต์ พุ่งไปไม่ถึง จิ้งจอก นำห่างเป็น 3-0 แล้ว
ตีตื้น ! นาทีที่ 68 เอ็มเร ชาน ทำชิ่งบอลกับ อัลเบิร์ตโต้ โมเนโร ที่ลงมาแทน มาเน ลากบอลเข้าใกล้กรอบเขตโทษแล้วแต่ให้ คูตินโญ แต่งบอลหนึ่งจังหวะแล้วยิงด้วยขวา บอลพุ่งเรียดเสียบโคนเสา หงส์แดง ไล่ตามมาเป็น 1-3
นาทีที่ 77 ฟุคส์ ได้โอกาสยิงไกลนอกกรอบเขตโทษ แต่ทาง มิโญเลต์ นั้นเซฟเอาไว้ได้
จากนั้นทั้งสองทีมไม่สามารถทำอะไรกันได้ในเวลาที่เหลือ จบเกม เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านเอาชนะ ลิเวอร์พูล ไปได้ 3-1 ผลของเกมนี้ได้พิสูจน์ให้คนทั้งโลกเห็นว่านักเตะ จิ้งจอก นั้นเล่นได้อย่างดีขึ้นและสามารถเก็บชัยชนะได้โดยปราศจาค เคลาดิโอ รานิเอรี อดีตกุนซือของทีม เลสเตอร์ ที่เพิ่งถูกปลดไป
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เลสเตอร์ ซิตี้ : ชไมเคิล, ซิมสัน, มอร์แกน, ฮูธ, ฟุชส์, ดริงค์วอเตอร์, เอ็นดีดี้, มาห์เรซ (เกรย์ น.80), อัลไบรห์ตัน(ชิลเวลล์ น.90), โอกาซากิ (อมาร์เต้ น.69), วาร์ดี้
สำรองไม่ได้ใช้ : ซีเลอร์, คิง, อูยัว, สลิมานี
ผู้จัดการทีม : เคร็ก เชคสเปียร์ (รักษาการณ์แทน)
ลิเวอร์พูล : มิโยเลต์, ไคลน์, มาติป, ลูคัส (วู๊ดเบิร์น น.84), มิลเนอร์, ชาน, ไวนัลดุม, ลัลลานา (โอริกี น.66), คูตินโญ, มาเน (โมเนโร น. 66), ฟิร์มิโน
สำรองไม่ได้ใช้ : คาริอุส, คลาวาน, สจ๊วร์ต, อเล็กซานเดอร์
ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์
ผู้ตัดสิน : ไมเคิล โอลิเวอร์