ลิเวอร์พูลทำสถิติชนะรวด 3 เกม และเพิ่มความหวังในการเข้ารอบต่อไปในรายการยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม บี เมื่อสามารถบุกไปเอาชนะรูบิน คาซาน ที่รัสเซีย ไปด้วยสกอร์ 1-0
หลังจากเจมส์ มิลเนอร์ ยิงเสยคานในช่วงต้นเกม ประตูแรกของจอร์ดอน ไอบ์ ที่ทำให้สโมสรช่วยให้ทีมขึ้นนำในนาทีที่ 52 เมื่อเขาวิ่งพาบอลเข่าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนจะยิงเรียดแฉลบเสาเข้าไป
ประตูของปีกรายนี้มีความสำคัญ เพราะเมื่อรวมกับผลเสมอของเอฟซี ซิยง ซึ่งเป็นจ่าฝูง ทำให้ทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ อยู่ในตำแหน่งที่ดีในการคว้าตั๋วสำหรับรอบต่อไป
มีการเปลี่ยนแปลงทีม 4 ตำแหน่ง จากเกมนัดเอาชนะเชลซีที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ โดยคริสเตียน เบนเตเก้ ที่เป็นผู้ยิงประตูที่สาม ลงมาเป็นหัวหอกในแนวรุก
นอกจากนี้ยังเป็นการกลับมาสู่ทีมของไอบ์, โจ อัลเลน และเดยัน ลอฟเรน โดยฟิลิปเป้ คูตินโญ่, ลูคัส เลว่า, อดัม ลัลลานา และมาร์ติน สเคอร์เทล มีชื่อบนม้านั่งสำรอง
หลังจากเก็บผลเสมอมาแล้ว 3 นัดก่อนหน้านี้ เกมเร่มขึ้นโดยทีมหงส์แดงรู้ว่า ชัยชนะจะเป็นสิ่งสำคัญในการผ่านสู่รอบถัดไป
และทีมเกือบทำประตูขึ้นนำได้เพียงแค่ 6 นาที เมื่อเจมส์ มิลเนอร์ ยิงชนคาน หลังจากโรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ แตะบอลลอดขานักเตะแนวรับ ก่อนที่จะสไลด์บอลไปให้นักเตะหมายเลข 7 ภายในกรอบเขตโทษ
จากนั้น โซโลมอน คเวอร์เคเลีย ขึ้นเคลียร์บอลไปก่อนที่เบนเตเก้จะยิงโหม่งได้ หลังจากไอบ์ผ่านบอลขึ้นโหม่งเฉี่ยวเสาออกไป
ทีมเยือนสามารถคุมเกมได้ในช่วงต้นครึ่งแรก และเฟอร์มิโน่ น่าจะทได้ดีกว่านี้ เมื่อเบนเตเก้ ช่วยหลอกให้หลุดตัวประกบทางกราบขวา แต่กลับยิงผิดเหลี่ยมออกไป
อย่างไรก็ดี ทั้งการครองบอล และวิ่งกดดัน ลิเวอร์พูลยังเสมอกับรูบิน คาซาน จนถึงช่วงพักครึ่งแรก แต่คเวอร์เคเลีย เกือบทำเข้าประตูตัวเองจากลูกครอสของไอบ์ ในระยะ 6 หลา ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
เมื่อเริ่มครึ่งหลัง ทีมเยือนพยายามขึ้นเกมรุกอีกครั้ง และกิลเลอร์โม คูตูโน่ ต้องกระโดดขึ้นบล็อกจังหวะยิงของโมเรโน่ให้เฉียดเข้าข้างเสาไป
อย่างไรก็ตาม รูบินต้านทานแนวรุกของลิเวอร์พูลได้จนถึงแค่นาทีที่ 52 ซึ่งต้องยกเครดิตการหลุดเดี่ยวของไอบ์
หลังจากรับบอลจากกลางสนามจากโฟอร์มิโน่ นักเตะวัย 19 ปี รายนี้เริ่งเครื่องขึ้นหน้า ก่อนจะยิงเสียบเสาไกลอย่างสวยงาม และนี่เป็นประตูแรกในทีมชุดใหญ่ของเขา
ลิเวอร์พูลเกืบได้ประตูนำ เมื่อไรซีคอฟ สกัดโอกาสของทั้งมิลเนอร์และลอฟเรน
ผู้รักษาประตูจากคาซานรายนี้ ไม่ยอมให้โมเรโน่ ยิงประตู เมื่อเล้นเกมบุกแบบโต้กลับกับอดีม ลัลลานา ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง แทนมิลเนอร์ แต่บอลสุดท้ายของไอบ์เฉี่ยวผ่าเสาออกไป
แม้ว่าคาซานจะพยายามกดดันในช่วงท้ายเกม แต่ไม่สามารถทำอะไรมินโญเลต์ได้ ทำให้ลิเวอร์พูลจากไปด้วยการหยิบสามแต้มที่คู่ควร ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสให้ทีมได้ผ่านเข้ารอบในการแข่งขันต่อไป