เจอร์เก้น คล็อปป์ คว้าชัยชนะในเกมแรกในรายการบาร์เคลย์ส พรีเมียร์ลีก ในฐานะผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ได้อย่างโดดเด่น ในเกมที่ทำสถิติเอาชนะเชลซี ไปด้วยสกอร์ 3-1 ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์
เพียง 4 นาที เจ้าบ้านเบิกสกอร์นำไปได้ก่อน เมื่อรามิเรซพุ่งโหม่งบอลเข้าประตูไป จาการส่งของวีซาร์ อัซปิลิกวยต้า
อย่างไรก็ตาม ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ตีเสมอให้ลิเวอร์พูลก่อนหมดครึ่งแรก เมื่อตัดบอลเข้าไปในกรอบ ก่อนปั่นบอลโค้งด้วยเท้าซ้ายเสียบมุม
ลิเวอร์พูละครองเกมได้นาน หลังจากตกเป็นฝ่ายรับ ก่อนที่ในนาทีที่ 74 นักเตะชาวบราซิลก็ร่ายมนตร์อีกครั้ง
หลังจากที่ได้บอลจากคริสเตียน เบนเตเก้ กองหน้าที่ลงมาเป็นตัวสำรอง คูตินโญ่จับบอลก่อนที่จะขยับพาบอลเข้าไป และยิงแฉลบเข้าประตูไป
และเป็นเบนเตเก้ที่ช่วยย้ำชัย เมื่อยิงประตูได้ หลังจากหลุดประกบของจอห์น เทอร์รี และแกรี เคฮิลล์ และยิงบอลเรียดเสียบโคนเสาเข้าไป
ก่อนเริ่มเกม มีการเปลี่ยนแปลงทีมเพียงแค่หนึ่งตำแหน่ง จากเกมในลีกกับเซาท์แฮมป์ตัน โดยโรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ ลงมาเป็นตัวจริงในแนวรุก แทนที่ดิว็อค โอริกี
ในขณะที่เบนเตเก้กลับมามีชื่อในเกม ในฐานะตัวสำรอง หลังจากฟื้นจากการบาดเจ็บที่ทำให้ต้องพลาดเกมแคปิตัล วัน คัพ กับบอร์นมัธ เมื่อกลางสัปดาห์
ทีมหงส์แดงลงเล่นในเกมนี้ ด้วยความมั่นใจจากชัยชนะในเกมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา แต่ต้องตกเป็นฝ่ายตามหลัง เมื่อเริ่มเกมได้ไม่ถึง 4 นาที ในจังหวะที่รามิเรซพุ่งโหม่งบอลที่ผ่านมาจากอัซปิลิกวยต้า ที่อยู่ทางกราบซ้ายอย่างเต็มแรง บอลลอยหนีมือไซม่อน มินโญเลต์ เข้าไป
และเกือบแย่กว่านั้น ในไม่กี่อึดใจ เมื่อเทอร์รีเกือบเข้าสไลด์ลูกโหม่งของเคฮิลล์เข้าไป
เซลซีเริ่มต้นเกมด้วยความได้เปรียบ แต่การเคลื่อนที่อย่างดีในแนวรับก็เปิดโอกาสที่ดีให้นาธาเนียล ไคลน์ เช่นกัน แต่ยิงหักข้อออกไปที่เสาไกล
จากนั้น ลิเวอร์พูลเริ่มที่จะกลับมาได้ และอดัม ลัลลานา ได้ทดสอบอัสมีร์ เบโกวิช ด้วยลูกยิงจากในกรอบ
นักเตะมิดฟิลด์ดีกรีทีมชาติอังกฤษยังทำให้ผู้รักษาประตูเจ้าบ้านได้ออกแรงอีกครั้งในนาทีที่ 26 เมื่อได้บอลจากลูกครอสของเจมส์ มิลเนอร์ แต่ยังตรงตัวผู้รักษาประตู
และยังเป็นลูกจ่ายของมิลเนอร์ ที่สร้างโอกาสให้ลิเวอร์พูล และในครั้งนี้ เป็นลูคัส เลว่า ที่ได้โหม่งไปตรงตัวเบโกวิช
ในขณะที่ใกล้หมดครึ่งแรก ไม่น่าสงสัยเลยว่า ทีมหงส์แดงที่เป็นฝ่ายครองเกมได้เหนือกว่า จะได้รับรางวัลในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
หลังจากรับบอลในระยะ 20 หลา จากประตู คูตินโญ่ขยับหลอกรามิเรซ ด้วยการตัดเข้าใน ก่อนที่จะปั่นบอลด้วยซ้ายเสียบมุม
ในครึ่งหลัง ลูกทีมของคล็อปป์กลับลงมาสานต่องานจากครึ่งแรก และสร้างความกดดันให้ประตูของเจ้าบ้าน
และหลังจากคูตินโญ่, มิลเนอร์ และลัลลานา ได้พยายามลองยิง ผู้จัดการทีมก็ส่งเบนเตเก้ลงสนาม เมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมง โดยลงมาแทนมิลเนอร์ส นักเตะหมายเลข 7
อย่างไรก็ตาม ออสการ์เกือบทำให้เจ้าบ้านขึ้นนำในนาทีที่ 71 เมื่อเห็นมินโญเลต์ออกมาจากเส้นประตูกว่า 40 หลา แต่มินโญเลต์ถอยกลับไปปัดบอลออกไปได้
แต่ทว่าวันนี้เป็นวันของลิเวอร์พูล เมื่อคูตินโญ่ยิงให้ทีมขึ้นนำ หลังจากเก็บบอลได้จากเบนเตเก้ และยิงเข้าประตูต่อหน้าแฟนๆ ทีมเยือนที่เดินทางมาชมเกมนี้
และที่ดียิ่งกว่านั้นสำหรับหงส์แดง เมื่อเบนเตเก้ย้ำชัยชนะ หลังจากได้บอลจากลัลลานา ก่อนจะยิงสวนเข้าไปเสียบมุม ปิดเกมในวันนี้สำหรับคล็อปป์ และลูกทีมได้อย่างยอดเยี่ยม