"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล รองฝูง เตรียมส่ง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ลงยิงหวังเก็บชัยทำแต้มไล่จ่าฝูง เกมพบ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่จะได้ เซร์คิโอ "กุน" อเกวโร่ พ้นโทษแบนกลับมาปิดสกอร์ ลุ้นระทึกได้ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ 31 ธ.ค. ศกนี้ ถ่ายทอดสด : บีอิน สปอร์ตส์ 1 (เวลา : 00.30 น.)
ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม 2559
ลิเวอร์พูล - แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ถ่ายทอดสด : บีอิน สปอร์ตส์ 1 (เวลา : 00.30 น.)
สนาม : แอนฟิลด์
ลิเวอร์พูล ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เปิดบ้านแซงชนะ สโต๊ค ซิตี้ 4-1 คว้าชัย 3 นัดติด พร้อมตามหลัง เชลซี จ่าฝูง 6 แต้มเท่าเดิม
ความพร้อมล่าสุด ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ (ข้อเท้า) กลับมาซ้อมแล้วแต่ยังไม่ฟิตพร้อมคืนสนาม เช่นเดียวกับ โฌแอล มาติป (ข้อเท้า) ที่ยังไม่ฟิตสมบูรณ์เหมือนเดิม
คล็อปป์ น่าจะยึดผู้เล่นชุดเดิม ซิมง มิโญเล่ต์ ลงเฝ้าเสาตามปกติ แนวรับยึดชุดเดิม เนธาเนี่ยล ไคลน์, เดยัน ลอฟเรน, รักนาร์ คลาวาน และ เจมส์ มิลเนอร์
แดนกลางใส่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน บัญชาเกมร่วมกับ อดัม ลัลลาน่า และ จอร์จินโย่ ไวนัลดุม แดนหน้า ซาดิโอ มาเน่ กับ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ปั้นเกมรุกริมเส้น หอกเป้ายังเลือก ดิว็อค โอริกี้ ก่อนหน้า แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า รัว 3 ประตูในช่วง 20 นาทีสุดท้ายในเกมบุกทุบ ฮัลล์ ซิตี้ 3-0 คว้าชัย 3 เกมติดในลีก
สภาพทีมล่าสุด เซร์คิโอ อเกวโร่ พ้นโทษแบน 4 นัดพร้อมกลับมาล่าประตูเป็นตัวจริงแน่นอน
ขณะที่ จอห์น สโตนส์ รอประเมินความฟิตหลังเดี้ยงจนโดนเปลี่ยนตัวออกในเกมล่าสุด
สำหรับ แว็งซ็องต์ ก็องปานี (เข่า) กับ ฟาเบียน เดลฟ์ (ขาหนีบ) ยังต้องพักรักษาตัวต่อไป ส่วน อิลคาย กุนโดกัน พักฟื้นยาวๆ หลังผ่าตัดเข่าเรียบร้อยแล้ว
การจัดทัพ เคลาดิโอ บราโว่ รับหน้าที่นายทวาร คู่เซนเตอร์แบ็กเป็น นิโกลาส โอตาเมนดี้ กับ อเล็คซานดาร์ โคลารอฟ แบ็กขวา-ซ้ายเป็น บาการี่ ซาญ่ากับ กาแอล กลิชี่
แดนกลางเลือก แฟร์นันดินโญ่ เชื่อมเกมกับ ยาย่า ตูเร่ แนวรุกเป็น ราฮีม สเตอร์ลิง, ดาบิด ซิลบา และ เควิน เดอ บรอยน์ ร่วมกันปั้นเกมรุกข้างหลัง เซร์คิโอ อเกวโร่
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ซิมง มิโญเล่ต์ - เนธาเนียล ไคลน์, รักนาร์ คลาวาน, เดยัน ลอฟเรน, เจมส์ มิลเนอร์ - จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, อดัม ลัลลาน่า - ซาดิโอ มาเน่, ดิว็อค โอริกี้, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่
แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : เคลาดิโอ บราโว่ - บาการี่ ซาญ่า, นิโกลาส โอตาเมนดี้, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ, กาแอล กลิชี่ - แฟร์นันดินโญ่, ยาย่า ตูเร่ - ราฮีม สเตอร์ลิง, เควิน เดอ บรอยน์, ดาบิด ซิลบา - เซร์คิโอ อเกวโร่
ผู้ตัดสิน : เคร็ก พอว์สัน
ผลงานการพบกันที่บ้านลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูลชนะ 49 แมนฯ ซิตี้ชนะ 13 เสมอ 22
ประตูที่ทำได้ : ลิเวอร์พูล 178 ลูก แมนฯ ซิตี้ 103 ลูก
- ลิเวอร์พูลชนะรวด 3 เกมลีกที่พบแมนฯ ซิตี้ โดยหนล่าสุดที่พวกเขาชนะ "เรือใบสีฟ้า" 4 นัดซ้อน เกิดขึ้นในปี 1981 (รวมทั้งสิ้น 7 นัด)
- หนล่าสุดและครั้งเดียวที่แมนฯ ซิตี้ชนะที่แอนฟิลด์ เกมพรีเมียร์ลีก (เสมอ 5 แพ้ 13) เกิดขึ้นเมื่อพฤษภาคม 2003 โดย นิโกล่าส์ อเนกล้า เป็นฮีโร่ของซิตี้ ด้วยการทำ 2 ประตูในการเจอทีมเก่า และพาทีมชนะ 2-1
- เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" ทำ 4 ประตูในเกมพรีเมียร์ลีกที่พบลิเวอร์พูล แต่ไม่เคยยิงได้ที่แอนฟิลด์
- ลิเวอร์พูลไม่เคยพลาดทำประตูใน 19 เกมพรีเมียร์ลีกก่อนหน้านี้ที่เปิดบ้านพบซิตี้
- ลิเวอร์พูลปิดฉากปี 2014 (4-1 เหนือสวอนซี ซิตี้) และปี 2015 (1-0 เหนือซันเดอร์แลนด์) ด้วยชัยชนะในลีก
- หลังจากพลาดทำประตูในพรีเมียร์ลีกติดต่อกัน เมื่อปลายเดือนมีนาคม 2016 แมนฯ ซิตี้ ยิงไม่ได้แค่นัดเดียวจาก 26 เกมลีกหลังสุดและทำได้ 58 ประตูในช่วงดังกล่าว
- เคลาดิโอ บราโว่ ทำคลีนชีตในช่วง 3 เกมลีกหลังสุด (2 ครั้ง) เท่ากับที่ลงสนาม 12 เกมแรก
- เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ (20 ปี 84 วัน) เป็นผู้เล่นอายุน้อยสุดอันดับ 3 ของพรีเมียร์ลีก ที่ยิงได้ 5 ประตูจากการเป็นตัวสำรอง โดย 2 คนที่เหนือกว่าคือ เวย์น รูนี่ย์ (18 ปี 64 วัน) และ เจอร์เมน เดโฟ (19 ปี 160 วัน)
- แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ทำประตูในลีกฤดูกาลนี้ จากชัยชนะเหนือสโต๊ค ซิตี้ เมื่อ 17 ธันวาคม และเป็นการยิงครั้งที่ 21 ในลีกซีซั่นนี้
- อดัม ลัลลาน่า มีส่วนร่วมในการทำประตู มากกว่ากองกลางรายอื่นในลีก ฤดูกาลนี้ (13 : ยิง 7, จ่าย 6)
- ลิเวอร์พูล ทำประตูในลีก 86 ลูก รอบปี 2016 เป็นสถิติดีที่สุดต่อหนึ่งรอบปฏิทิน นับตั้งแต่ทำ 87 ประตูเมื่อปี 1985
ผลการพบกันเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา (บ้านลิเวอร์พูล)
ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯ ซิตี้ 3-0
3 มีนาคม 2016 ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอตกินสัน
ผู้ทำประตู : 1-0 อดัม ลัลลาน่า น.34, 2-0 เจมส์ มิลเนอร์ น.41, 3-0 โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ น.57