"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล จะไม่มี ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ จอมทัพตัวเก่งเหตุเจ็บข้อเท้า โดย โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ จะลงนำล่าตาข่าย เกมบุกถิ่น บอร์นมัธ จากสถิติพบกันก่อนหน้าเป็นทีมเยือนที่ทำได้ดีกว่า ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอาทิตย์ที่ 4 ธ.ค. ศกนี้ ถ่ายทอดสด : PPTV HD, บีอิน สปอร์ตส์ 1 (เวลา : 20.30 น.)
ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม 2559
บอร์นมัธ - ลิเวอร์พูล
ถ่ายทอดสด : PPTV HD, บีอิน สปอร์ตส์ 1 (เวลา : 20.30 น.)
สนาม : ไวทัลลิตี้ สเตเดี้ยม
บอร์นมัธ ของกุนซือ เอ็ดดี้ ฮาว เกมล่าสุดบุกแพ้ อาร์เซน่อล 1-3 โดยก่อนหน้านั้นเพิ่งคว้าชัยชนะนัดแรกในรอบ 4 นัด จากการบุกเชือด สโต๊ค 1-0
สภาพทีมจะได้ แจ็ค วิลเชียร์ กองกลางกลับคืนทีม หลังพลาดนัดก่อน เพราะติดสัญญายืมจาก ปืนใหญ่ อีกคนคือประตูมือ 1 อาร์ตูร์ โบรุก ที่หายเจ็บหลัง
แต่ยังขาด แอนดรูว์ เซอร์แมน กองกลางตัวเก๋าที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่า และจะประเมินความฟิต ชาร์ลี แดเนียลส์ แบ็กซ้ายที่เจ็บสะโพกจนนาทีสุดท้าย
การจัดทัพ ผู้รักษาประตู อาร์ตูร์ โบรุก ลงเฝ้าเสา แผงหลังปรับมาเป็น อดัม สมิธ, ไซม่อน ฟรานซิส, สตีฟ คุ๊ก และ แบร๊ด สมิธ
แดนกลาง แดน กอสลิง คุมเกมกับ แฮร์รี่ อาร์เทอร์ และ แจ็ค วิลเชียร์ แนวรุก โจชัว คิง ประสานงาน จูเนียร์ สตานิสลาส และหน้าเป้า คัลลัม วิลสัน
ขณะที่ จอร์ดอน ไอบ์ ปีกดาวรุ่งที่คว้ามาจาก ลิเวอร์พูล ถึง 15 ล้านปอนด์ ก็พร้อมลงเจอทีมเก่า
ฝั่ง ลิเวอร์พูล ยังทำผลงานยอดเยี่ยม ล่าสุดเปิดบ้านเชือด ลีดส์ ยูไนเต็ด ทีมจากแชมเปี้ยนชิพ 2-0 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ลีก คัพ ไปพบ เซาธ์แฮมป์ตัน
ส่วนในลีกล่าสุด เปิดบ้านชนะ ซันเดอร์แลนด์ 2-0 ไล่บี้จ่าฝูงกระชั้นต่อไป และทำให้ทีมไม่แพ้เกมลีก 11 นัดติดแล้ว รวมถ้วยลีกคัพด้วยก็ 15 นัดติด
กุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ มีปัญหาแนวรุกแน่นอน ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ จอมทัพเจ็บข้อเท้า และ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ กองหน้าก็เจ็บน่อง
แต่ข่าวดียังมี โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ที่เจ็บน่องจากเกมกับ แมวดำ กลับมาลงซ้อมเรียบร้อย พร้อมลงเล่น
และ อดัม ลัลลาน่า กองกลางตัวรุกก็หายเจ็บโคนขาหนีบ กลับมาซ้อมเมื่อวันพฤหัสบดี คาดว่าจะพร้อมคืนทีมแล้ว หลังพลาดลงสนามไปนานถึง 3 สัปดาห์
การจัดทัพ คล็อปป์ จะเรียกตัวหลักหลายคนกลับคืน หลังจากเปลี่ยนทีมถึง 8 จุดในเกมลีกคัพ
ผู้รักษาประตู โลริส คาริอุส กลับมาเฝ้าเสา แผงหลังที่ได้พักมา พร้อมคืนตัวจริงทั้ง เนธาเนียล ไคลน์, โจเอล มาติป, เดยัน ลอฟเรน, เจมส์ มิลเนอร์
แดนกลาง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กลับมาประสานงาน เอ็มเร่ ชาน และ อดัม ลัลลาน่า แนวรุกปรับมาใช้ ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ดีว็อค โอรีกี
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
บอร์นมัธ : อาร์ตูร์ โบรุก, อดัม สมิธ, ไซม่อน ฟรานซิส, สตีฟ คุ๊ก, แบร๊ด สมิธ, แดน กอสลิง, แฮร์รี่ อาร์เทอร์, แจ็ค วิลเชียร์, โจชัว คิง, จูเนียร์ สตานิสลาส, คัลลัม วิลสัน
ลิเวอร์พูล : โลริส คาริอุส, เนธาเนียล ไคลน์, โจเอล มาติป, เดยัน ลอฟเรน, เจมส์ มิลเนอร์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เอ็มเร่ ชาน, อดัม ลัลลาน่า, ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ดีว็อค โอรีกี
ผู้ตัดสิน : โรเบิร์ต แมดลี่ย์
ผลงานการพบกันที่บ้านบอร์นมัธ
บอร์นมัธชนะ 0 ลิเวอร์พูลชนะ 2 เสมอ 0
ประตูที่ทำได้ : บอร์นมัธ 1 ลูก ลิเวอร์พูล 5 ลูก
- บอร์นมัธไม่เคยชนะลิเวอร์พูลในทุกรายการ นับตั้งแต่ปี 1927 (เสมอ 2แพ้ 7)
- ลิเวอร์พูลชนะเดอะ เชอร์รี่ส์ทั้ง 2 นัดในลีกฤดูกาลที่แล้ว ด้วยประตูห่างแค่ลูกเดียว
- เดอะ เชอร์รี่ส์ไม่เคยยิงมากกว่า 1 ประตูต่อนัดในการพบลิเวอร์พูล โดยยิงได้แค่ 2 จาก 5 เกมหลังสุด (และยิงได้ 5 จาก 9 เกมรวมทุกรายการ)
- ประตูจาก โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ช่วยให้ลิเวอร์พูลชนะ 2-1 ในเกมที่เจอกันที่นี่เมื่อฤดูกาลที่แล้ว นอกจากนั้น นี่ยังเป็นเกมเดียวในพรีเมียร์ลีกที่ทั้ง 2 ฝ่ายต่างทำประตูได้
- ลิเวอร์พูลเป็นทีมที่วิ่งระยะทางไกลที่สด (1,514.2 กม.) และสปรินท์ (7,706) มากกว่าทุกทีมในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้
- บอร์นมัธแพ้รวดทั้ง 8 เกมพรีเมียร์ลีกที่เล่นวันอาทิตย์ รวมถึงเกมคู่นี้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว (1-2)
- ลิเวอร์พูลชนะ 8 และไม่แพ้ใน 11 เกมลีกหลังสุด เป็นสถิติไร้พ่ายนานที่สุดในยุคของ เจอร์เก้น คล็อปป์ และนานที่สุดนับตั้งแต่ไม่แพ้ 13 เกมเมื่อมีนาคม 2015 ยุค เบรนแดน ร็อดเจอร์ส
- จูเนียร์ สตานิสลาส (40%) มีส่วนร่วมกับประตูในพรีเมียร์ลีกของบอร์นมัธฤดูกาลนี้ มากกว่าผู้เล่นรายอื่น (6 จาก 15)
- จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ผ่านบอลสำเร็จ (997) และวิ่งเป็นระยะไกล (155.1 กม.) มากกว่าผู้เล่นพรีเมียร์ลีกทุกรายในฤดูกาลนี้
- เจมส์ มิลเนอร์ ไม่แพ้ในเกมพรีเมียร์ลีกที่ทำประตู (45 นัด : ชนะ 37 เสมอ 8) มีเพียง ดาริอุส วาสเซลล์ (46 เกม) ที่สถิติเหนือกว่า
ผลการพบกันเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา (บ้านบอร์นมัธ)
บอร์นมัธ แพ้ ลิเวอร์พูล 1-2
17 เมษายน 2016 ผู้ตัดสิน : ไมค์ โจนส์
ผู้ทำประตู : 0-1 โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ น.41, 0-2 แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ น.45+2, 1-2 โจชัว คิง น.90+3