เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี เกมที่ 225 จบลงด้วยการแบ่งแต้ม เมื่อลิเวอร์พูลบุกไปเสมอกับเอฟเวอร์ตัน ทีมร่วมเมืองด้วยสกอร์ 1-1
แดนนี อิงส์ ยังคงรักษาฟอร์มที่ยอดเยี่ยมต่อไป เมื่อเป็นคนยิงประตูปลดล็อกท้ายครึ่งแรก จากลูกโหม่งระยะใกล้ แต่โรเมลู ลูกากู ตอบโต้ด้วยการยิงประตูตีเสมอก่อนที่กรรมการจะเป่านกหวีดหมดครึ่งแรก
ก่อนเกม เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ประกาศรายชื่อนักเตะ ซึ่งเป็นชุดเดียวกับที่เอาชนะแอสตัน วิลลา ที่แอนฟิลด์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยแดเนียล สเตอร์ริดจ์ กลับมาสู่ทีมอีกครั้ง และลงปะทะกับทีมที่เขาเคยยิงไป 3 ประตูก่อนหน้านี้
ทั้งสองทีมเล่นได้อย่างมีชีวิตวาเมื่อเปิดเกม และเป็นทีมเยือนที่สามารถสร้างสรรค์โอกาสได้มากมาย ก่อนที่ทีมคู่แข่งในพรีเมียร์ลีกจะเริ่มตั้งจังหวะของตัวเองได้
โดยสเตอร์ริดจ์ ที่ได้โอกาสสองครั้ง เขาเคลื่อนที่จากกราบขวาเข้ากลาง ก่อนที่จะได้ยิงออกข้างไป เมื่อเริ่มเกมได้ 6 นาที และศูนย์หน้ารายนี้ ก็ไม่พลาดในจังหวะต่อมา เมื่อลูคัส เลว่า วางบอลตัดหลังให้มาร์ติน สเคอร์เทล จากจังหวะบอลกระดอนจากลูกตั้งเตะ ก่อนที่กองหลังรายนี้จะผ่านบอลให้เพื่อนร่วมทีมที่เสาใกล้ แต่จาเกียลก้ามาตัดหน้าจังหวะสเตอร์ริดจ์จะง้างเท้ายิง
สเคอร์เทลที่ยืนอยู่อย่างไร้ตัวประกบที่มุมได้บอลจากโมเรโน่ พยายามขึ้นโหม่ง แต่บอลโด่งข้ามคานของทิม โฮเวิร์ด ออกไป
แต่กองหลังชาวสโลวาเกียต้องได้รับการปฐมพยาบาลในช่วงกลางครึ่งแรก ทำให้เกมหยุด แต่ก็กลับมาลงสนามได้อีกครั้ง และโมเมนตัมนั้นเหวี่ยงกลับมาที่ฝั่งลิเวอร์พูล
ในจังหวะต่อมา โฮเวิร์ดต้องออกมาตัดเกมของเจมส์ มิลเนอร์ เมื่อนักเตะหมายเลข 7 ประสานงานกับฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ในเขตโทษของเอฟเวอร์ตัน ก่อนที่มิลเนอร์สจะพยายามยิงบอลให้ผ่านผู้รักษาประตู แต่ออกไปทางเสาไกล
ไซม่อน มินโญเลต์ไม่มีปัญหาในการรับมือในเกมจนถึงขณะนี้ แต่สามารถเซฟจังหวะสำคัญได้ในนาทีที่ 28 โดยปัดลูกโหม่งของสตีเวน เนสมิธ ที่กำลังจะเสียบสามเหลี่ยม หลังจากที่กองหน้าทีมเอฟเวอร์ตันพยายามกระโดดขึ้นโหม่งบอลจากฟรีคิกของรอส บาร์คลีย์
ผู้รักษาประตูชาวเบลเยียมขึ้นเซฟอีกครั้งเมื่อบอลตกมาเข้าทางเจมส์ แม็คคาร์ธีย์ ในเขตโทษของลิเวอร์พูล ก่อนที่จะตะบันบอลไปทางมุมซ้ายให้มินโญ่เลต์ต้อปัดออกไปเพื่อรักษาสกอร์เสมอไว้
ซึ่งนั่นเปลี่ยนแปลงไปในนาทีที่ 41 เมื่อมิลเนอร์เตะมุมเข้ามาที่โซนอันตรายของเจ้าบ้าน ก่อนที่อิงส์ที่กำลังรออยู่ ขึ้นโหม่งเข้าประตูไป และให้ทีมของร็อดเจอร์สขึ้นนำ
แต่แฟนๆ ในกูดิสัน พาร์ก เงียบได้ไม่นาน เมื่อลูกากูได้โอกาสในช่วงนาทีแรกของการทดเวลาบาดเจ็บ 3 นาที ยิงตีเสมอก่อนครึ่งแรกจะจบลง
เริ่มครึ่งหลัง ทั้งสองทีมไม่สามารถทำเกมได้อย่างไหลลื่น ถึงแม้ว่ามินโญเลต์ต้องรับมือกับลูกครอสจากกราบซ้าย เข้ามาตรงระยะ 6 หลา หน้าประตู
และเป็นทีมท็อฟฟี่สีน้ำเงินที่ได้ทำเกมขึ้นกดดันได้มากกว่า โดยบาร์คลีย์มีโอกาสใกล้เคียง จากลูกยิงไกล ในขณะที่เกมดำเนินมาสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย
มินโญเลต์ยังสามารถจัดการเอฟเวอร์ตันได้ เมื่อออกไปชกลูกยิงของลูกากู จากการพลิกบอลอันชาญฉลาดตัดหลังแนวรับของอารอน เลนนอน ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง
จากนั้น อดัม ลัลลานา ถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทนแดนนี อิงส์ ที่ทำประตูได้ในเกม ในขณะที่ผู้จัดการทีมต้องการเพิ่มความสดในแนวรุกเพื่อค้นหาประตูชัย
แม้สองทีมจะพยายามอย่างสุดความสามารถ แต่ไม่สามารถเก็บแต้มเต็มไปได้ เกมจึงจบลงด้วยการแบ่งแต้ม ก่อนที่ช่วงเบรกทีมชาติจะเริ่มขึ้นต่อจากนี้