คล็อปป์ โชว์กึ๋นวางระบบใหม่,แม็คเกรเกอร์ เด่นเกินหน้าเจ้าถิ่น! 5 ข้อ ลิเวอร์พูล กระซวก เรนเจอร์ส สองแผล
5 ตุลาคม 2565



ลิเวอร์พูล กลับคืนสู่เส้นทางแห่งชัยชนะได้ตามคาดเมื่อเปิดบ้านสยบ เรนเจอร์ส ได้สำเร็จด้วยสกอร์ 2-0 จากการฟาดแข้งถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดที่สามที่สนาม แอนฟิลด์ เมื่อวันอังคารที่ 4 ต.ค.

จากรูปเกมที่ปรากฏ บอกได้เลยว่า หงส์แดง เอาชนะทีมจากลีกวิสกี้ได้น้อยเกินไปเนื่องจากมีโอกาสเช็คบิลมากถึง 23 ครั้ง และส่งบอลเข้ากรอบได้ 10 ครั้ง แต่ได้มาแค่สองประตูจากต้นครึ่งแรก และต้นครึ่งหลัง

1.ระบบใหม่ 4-2-3-1

หลังทำได้แค่เสมอกับ ไบรท์ตัน 3-3 ในเกม พรีเมียร์ลีก นัดก่อนหน้านี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือทีม ลิเวอร์พูล ก็ทำเซอร์ไพรส์เล็กๆด้วยการปรับระบบการเล่นจากหมากเก่ง 4-3-3 มาเป็น 4-2-3-1 เน้นบุกแหลกเต็มสูบ

จากการเผยรายชื่อ 11 นักเตะในเกมบู๊กับ เรนเจอร์ส เป็นที่สังเกตว่านายใหญ่ชาวเมืองไส้กรอกตัดสินใจใช้งาน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ ติอาโก้ เป็นสองกองกลางโดยมีสี่ตัวรุกลงเล่นอย่างพร้อมเพรียงทั้ง ดีโอโก้ โชต้า , หลุยส์ ดิอาซ และ โม ซาลาห์ ขณะที่ ดาร์วิน นูนเญซ สวมบทหน้าเป้า

จากการวางหมากดังกล่าว เท่ากับว่า หงส์แดง ปรับโผจากเกมเสมอกับ นกนางนวล ในบ้านสามรายโดยเลือกใช้งาน นูนเญซ , โชต้า และ ดิอาซ แทนที่ บ๊อบบี้ ฟีร์มิโน่ ,ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ และ ฟาบินโญ่

2.เทรนต์ เรียกคืนความมั่นใจ

เปิดฉากมาได้แค่ 7 นาที เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ แบ็คขวาจอมรั่วของ ลิเวอร์พูล ก็โชว์ลูกเก่งปั่นฟรีคิกระยะ 25 หลาตุงตาข่ายให้ทีมเจ้าบ้านนำเร็ว 1-0

จากผลงานดังกล่าวทำให้ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ กระทุ้งลูกฟรีคิกตุงตาข่ายเป็นเม็ดที่หกในทุกรายการแล้วนับตั้งแต่เริ่มต้นซีซั่น 2016/17 ซึ่งเหนือกว่าขุนพล หงส์แดง ทุกรายในช่วงเวลาเดียวกัน

แน่นอนเหลือเกินกว่าประตูนำของดาวเตะอิงลิชส่งผลให้เขามีความมั่นใจมากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัยหลังจากหลายนัดที่ผ่านมาเจ้าตัวโชว์ฟอร์มได้อย่างย่ำแย่ โดยเฉพาะการเล่นเกมรับที่ไม่รัดกุมกระทั่งชวดได้ลงสนามให้ทีมชาติ อังกฤษ ในสองเกมหลังจนถูกมองว่ามีสิทธิ์หลุดโผทีมชาติ สิงโตคำราม ชุด ฟุตบอลโลก ไม่น้อย

อย่างไรก็ดี อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ยังต้องพิสูจน์ตัวเองต่อไปในการเล่นเกมรับซึ่งเป็นหน้าที่หลัก และเป็นหัวใจสำคัญของกองหลังซึ่งหากเขาปรับปรุงข้อด้อยในจุดนี้ได้สำเร็จก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะผงาดขึ้นเป็นฟูลแบ็คที่สมบูรณ์แบบ นอกเหนือจากการแอสซิสต์ และการเล่นลูกนิ่งซึ่งเป็นทีเด็ดเฉพาะตัวของเขา

3.สถิติที่รอ ซาลาห์ ทำลาย

ถึงตอนนี้ โม ซาลาห์ ซัดประตูในกม แชมเปี้ยนส์ลีก ให้กับ เร้ด แมชีน ได้เป็นเม็ดที่ 35 แล้วหลังสังหารลูกโทษช่วงต้นครึ่งหลังไม่พลาดพาทีมนำห่าง 2-0

จากตัวเลขดังกล่าว ทำให้ดาวยิงทีมชาติ อียิปต์ ไล่จี้สถิติของทีมจากอังกฤษได้อย่างกระชั้นชิดมากขึ้นเนื่องจาก ดิดิเยร์ ดร็อกบา (เชลซี) กับ เซร์คิโอ อเกวโร่ (แมนฯ ซิตี้) เป็นเจ้าของสถิติยิงประตูในถ้วยหูใหญ่คู่กันที่จำนวน 36 ลูก

4.นูนเญซ ก็แค่โชคร้าย?

นับตั้งแต่ย้ายมาจาก เบนฟิก้า ด้วยค่าตัวมหาศาล สตาร์ทีมชาติ อุรุกวัย ได้ลงเล่นให้ ลิเวอร์พูล ไปแล้วเจ็ดนัดในทุกรายการ และยิงได้สองประตู

รวมกับเกมล่าสุด นูนเญซ ได้ลงบู๊ให้ หงส์แดง เป็นนัดที่แปด และเจ้าตัวมีโอกาสเพิ่มสกอร์ให้กับตัวเองหลายต่อหลายครั้งในเกมต่อกรกับ เรนเจอร์ส แต่โดน อัลลัน แม็คเกอร์เกอร์ เซฟได้เรียบวุธตลอดระยะเวลา 80 นาทีที่ได้อยู่ในสนาม

มองจากฟอร์มการเล่น น่าจะถือได้ว่า นูนเญซ โชคร้ายอยู่เหมือนกันที่ แม็คเกรเกอร์ เกิดผีเข้าเซฟประตูได้อย่างยอดเยี่ยมเพราะหากเป็นวันอื่น หัวหอกอเมริกาใต้ก็น่าจะมีชื่อบนสกอร์บอร์ดกับเขาด้วยอย่างแน่นอนที่สุด

5.แม็กเกรเกอร์ ผู้แพ้ที่เด่นกว่าผู้ชนะ

ก่อนหน้าที่จะบุกมาต่อกรกับ ลิเวอร์พูล เรนเจอร์ส แพ้ยับทั้งสองเกมแรกโดยพวกเขาออกไปโดน อาแจ็กซ์ ขยี้ 4-0 ก่อนเล่นในบ้านถูก นาโปลี ยกทัพมาอัดอีก 3-0

อย่างไรก็ดี แม้จะแพ้เป็นนัดที่สามติดต่อกัน แต่ทีมจากเมืองน้ำเมาเสียท่าให้กับ ลิเวอร์พูล 2-0 เท่านั้นทั้งๆที่โดนส่องยิงเป็นชุดๆ

เท่ากับว่า เรนเจอร์ส ไม่มีสกอร์เลยจากการลงสนามสามนัดแรก และเสียไปทั้งหมด 9 ลูก แต่ในเกมที่ แอนฟิลด์ กลายเป็นว่าคนที่โดดเด่นที่สุดไม่ใช่นักเตะเจ้าถิ่น แต่ได้แก่ อัลลัน แม็คเกรเกอร์ มือกาววัย 40 ปีของทีมเยือนต่างหาก

ทั้งนี้เพราะนับตั้งแต่ ลิเวอร์พูล ได้ประตูขึ้นนำเร็ว โอกาสที่พวกเขาจะเพิ่มสกอร์ได้มีให้เห็นอย่างต่อเนื่องตลอดครึ่งแรกซึ่ง หงส์แดง ครองบอลได้แบบเบ็ดเสร็จในสัดส่วน 70:30% อีกทั้งทีมดังของ พรีเมียร์ลีก ได้โอกาสส่องยิงมากถึง 13 ครั้ง ต่างกับ เรนเจอร์ส ที่ได้ลุ้นสองหน แต่ไม่เข้ากรอบเลย

อย่างไรก็ดี เป็นเรื่องน่าอึดอัดที่เจ้าบ้านคลำเป้าได้แค่เม็ดเดียวตลอด 45 นาทีแรกเนื่องจาก แม็คเกรเกอร์ โชว์เหนียวปัดป้องลูกยิงได้มากถึงเจ็ดครั้ง โดยเฉพาะการปฏิเสธไม่ให้ ดาร์วิน นูนเญซ ได้เฮทั้งๆที่ศูนย์หน้าละตินสบโอกาสสับไกอย่างถี่ยิบรวมถึงครึ่งหลังด้วยเช่นกัน

ในทางกลับกัน แม้ตลอดครึ่งแรก อลิสซง ผู้รักษาประตูของ ลิเวอร์พูล จะไม่ต้องออกแรงเซฟเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ในช่วงท้าย นายด่านตาข่ายชาวเมืองกาแฟงัดความเหนียวออกมาป้องกันลูกอันตรายให้กับ หงส์แดง ได้ถึงสองหน ช่วยให้ทีมกลับมาเก็บคลีนชีตได้อีกครั้งอย่างที่ คล็อปป์ ปรารถนาจึงต้องถือว่าเขายังรักษามาตรฐานการเล่นได้เป็นอย่างดีแม้ซีซั่นนี้ต้นสังกัดจะมีผลงานที่แกว่งไปแกว่งมาก็ตาม


สยามกีฬา


ข่าว ลิเวอร์พูล

ผลบอล ลิเวอร์พูล พบ แมนซิตี้ : "ซาลาห์" ยิง-จ่าย หงส์ อัดนิ่ม เรือใบ นำฝูงไกล
วิเคราะห์บอล ลิเวอร์พูล พบ แมนซิตี้ วันอาทิตย์ที่ 1 ธ.ค. 67
ผลบอล : ซาลาห์ เบิ้ล! ลิเวอร์พูล แซงดับ เซาธ์แฮมป์ตัน ก่อนดวลเรือใบ
วิเคราะห์บอล เซาธ์แฮมป์ตัน พบ ลิเวอร์พูล วันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย. 67
ไม่ต้องซบ มาดริด! เปอตีต์ ชี้ เทรนต์ อยู่ ลิเวอร์พูล ก็ลุ้นแชมป์ ชปล. ได้
ฟาน ไดค์ ชม ลิเวอร์พูล รับมือกับช่วงที่เลวร้ายได้ดี
ผลบอล ลิเวอร์พูล พบ แอสตัน วิลล่า : ซาลาห์ซัดปิด! หงส์นำฝูงโด่งทิ้งเรือ 5 แต้ม
วิเคราะห์บอล ลิเวอร์พูล พบ แอสตัน วิลล่า วันเสาร์ที่ 9 พ.ย. 67
อาร์เนอ สล็อต ผู้พาหงส์หนาวเหน็บบนยอดตารางคะแนน
คู่ควร! หลุยส์ ดิอาซ ติดทีมยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ แชมเปี้ยนส์ ลีก
ดูทั้งหมด

Home

หน้าแรก
News

ข่าว
Match

โปรแกรมแข่งขัน
ตารางคะแนนพรีเมียร์ ลีก
Team

ประวัติสโมสร
ทำเนียบแชมป์
ประวัตินักเตะ
อดีตนักเตะ
ประวัติผู้จัดการทีม
Facebook

Liverpool Thailand
Media

วอลเปเปอร์
วีดีโอ
Contact

ติดต่อทีมงาน ลงโฆษณา
© 2018-2025 Liverpoolfc.in.th All Rights Reserved.