ดาร์วิน นูนเญซ และ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ สองนักเตะสำคัญที่ ลิเวอร์พูล เซ็นสัญญามาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ มีโอกาสลงเล่นเปิดตัวกับ "หงส์แดง" ในเกมอุ่นเครื่องแพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-4 ที่กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย เมื่อวันอังคารที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ผลงานของ คาร์วัลโญ่ ซึ่งย้ายมาจากฟูแล่ม เป็นส่วนหนึ่งในทีมตัวจริง "เดอะ เร้ดส์" ในแมตช์ "แดงเดือด" นอกรอบที่แดนสยาม โดยเขาถูกเปลี่ยนตัวออกหลังเกมผ่านไปครึ่งชั่วโมง ขณะที่ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัย ลงสนามช่วง 30 นาทีสุดท้าย
สำหรับฟอร์มการเล่นของทั้งสองคนต้องบอกว่ายังห่างไกลจากความคาดหวังของสาวก "เดอะ ค็อป" โดยเฉพาะเรื่องสภาพความฟิตที่เห็นได้ชัดว่ายังไม่สมบูรณ์
หลังจบแมตช์นี้มีประเด็นที่น่าสนใจสำหรับ 2 แข้งดังกล่าว โดยเฉพาะเรื่องรูปแบบการเล่นที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน จะนำมาใช้กับลูกทีมทั้งสองคนนี้
บทบาทของคาร์วัลโญ่
แข้งดาวรุ่งชาวโปรตุกีส โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในการเล่นให้กับ ฟูแล่ม โดยตำแหน่งของเขาคือผู้เล่นหลายเลข 10 หรือ "เพลย์เมกเกอร์" ในระบบ 4-2-3-1 แต่การมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล เป็นเรื่องน่าสนใจว่าเขาจะได้รับบทบาทแบบไหนเมื่ออยู่กับ คล็อปป์
เนื่องจากนายใหญ่ชาวเยอรมันนิยมการใช้แผน 4-3-3 นั่นหมายความว่า คาร์วัลโญ่ อาจจะไม่มีพื้นที่ให้ลงเล่นหากต้องทำหน้าที่ในแดนกลาง แต่กระนั้น คล็อปป์ อาจเลือกโยกไปเล่นแทน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทางฝั่งขวา
อย่างไรก็ตามในเกมที่ราชมังคลากีฬาสถาน ดาวเตะวัย 19 ปีได้ลงสนามในฐานะผู้เล่นหมายเลข 8 หรือมิดฟิลด์ตัวกลาง แม้ว่าจะไม่ใช้ตำแหน่งที่คุ้นเคยของเขาก็ตาม แต่ผลงานโดยรวมถือว่าน่าสนใจ
คาร์วัลโญ่ แสดงให้เห็นถึงการวิ่งเพรสได้ดีเยี่ยมและถือว่าเล่นได้โดดเด่นในตำแหน่งนี้ ที่สำคัญเจ้าตัวยังพิสูจน์ให้เห็นว่ามีความสำคัญกับเกมบุกที่อันตรายของ "หงส์แดง" ในช่วงต้นเกมด้วย
โดดเด่นในการเข้าทำ
แม้ว่าจะเริ่มต้นด้วยการลงเล่นตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง ซึ่งอยู่ต่ำกว่าบทบาทจอมทัพ แต่ คาร์วัลโญ่ ยังคงสามารถบุกเข้าไปมีลุ้นทำประตูให้กับทีมภายในพื้นที่สุดท้ายได้บ่อยครั้ง
นักเตะมีโอกาสสองครั้งในการวิ่งเติมเกมรุกทะลุทลวงจากแดนกลางตอนที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ขยับลงมาต่ำ และเกือบมีชื่อทำประตูแรกในแมตช์เปิดตัวให้กับต้นสังกัดใหม่ซะด้วย
ช่วงนาทีที่ 6 ของเกม คาร์วัลโญ่ เกือบทำประตูได้แต่โดน ดาบิด เด เคอา เซฟเอาไว้อย่างหวุดหวิด หลังจากนั้นเขายังมีโอกาสได้โชว์ทักษะพักอกในเขตโทษก่อนตะบันข้อบอลพุ่งชนเสา
นอกจากนี้ คาร์วัลโญ่ ยังมีจังหวะในการทำเกมสวยๆ หลายครั้ง โดยผลงานทั้งหมดที่ลงสนามตลอด 30 นาทีถือว่าใช้ได้ และน่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ คล็อปป์ เลือกเขาลงสนามเมื่อถึงเวลาเปิดซีซั่นใหม่
บทบาทของ นูนเญซ
นูนเญซ มีโอกาสได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมในเกมนี้เช่นกัน โดยนักเตะได้ลงสนามในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย โดยเขามีโอกาสได้ลงสนามร่วมกับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, ติอาโก้ อัลกันทาร่า และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์
คล็อปป์ เลือกส่งผู้เล่นตัวหลักลงสนามในช่วง 30 นาทีสุดท้าย โดยยังคงยึดแท็กติกระบบ 4-3-3 เหมือนเดิม นั่นหมายความว่า หัวหอกทีมชาติอุรุกวัย จะได้ลงทำหน้าที่เป็นหน้าเป้า หรือผู้เล่นหมายเลข 9
อดีตสตาร์ "เหยี่ยวลิสบอน" เบนฟิก้า ทำผลงานได้ดีในการปะทะกับแนวรับ แมนฯ ยูไนเต็ด และยังพยายามวิ่งไล่กดดันแผงหลัง "ผีแดง" มากกว่าที่จะเข้าไปยืนรอทำประตูเหมือนพวกหน้าเป้าทั่วๆ ไป
อย่างไรก็ตามการที่นักเตะเพิ่งจะได้ร่วมฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีม และสภาพร่างกายยังไม่ได้ฟิตเต็มร้อย กอปรกับมีปัญหาเจ็บเท้าการซ้อมเมื่อวันจันทร์ นั่นทำให้เขายังไม่สามารถแสดงศักยภาพที่แท้จริงออกมา
เริ่มต้นไม่ค่อยโดดเด่น
แม้ว่า นูนเญซ จะแสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมในจังหวะการยิงประตู ยกตัวอย่างจังหวะที่เขาพักอกบริเวณฝั่งขวาในกรอบเขตโทษ และตะบันเต็มข้อจากมุมแคบแต่โดน ทอม ฮีตัน เซฟได้อย่างหวุดหวิด
อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นนักเตะก็ไม่ค่อยได้แสดงทีเด็ดอะไรออกมามากนัก โดยเขามีโอกาสเพียงไม่กี่ครั้งในการทำประตู แต่จังหวะที่น่าผิดหวังคงหนีไม่พ้นการเข้าซ้ำลูกยิงของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซึ่งซัดชนเสา จ่อๆ ระยะ 7 หลาข้ามคานอย่างน่าเหลือเชื่อ แน่นอนว่า นูนเญซ คงจะต้องพิสูจน์ผลงานอีกซักระยะ
กระนั้นเป็นที่เข้าใจกันได้ว่า ดาวยิงวัย 23 ปีเพิ่งจะเดินทางมาร่วมซ้อมกับสโมสร และนี่ก็เป็นแค่ช่วงปรีซีซั่นเท่านั้น ฉะนั้นยังไม่ต้องรีบร้อนด่วนสรุปว่าค่าตัวที่ ลิเวอร์พูล ทุ่มซื้อ 85 ล้านปอนด์ (ราว 3,713 ล้านบาท) มันจะไม่คุ้มค่า !!
ทอมเม้ง