ทำความรู้จักเจ้าหนู คาลวิน แรมเซย์ แบ็กขวาสกอตแลนด์ ที่น่าจะได้ย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ในซัมเมอร์นี้ และ "หงส์แดง" สามารถคาดหวังอะไรได้บ้างจากแข้งดาวรุ่งรายนี้
ลิเวอร์พูล รองแชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลล่าสุด มั่นใจว่าจะคว้าตัว คาลวิน แรมเซย์ แบ็กขวาดาวรุ่งชาวสกอตแลนด์ ของสโมสร อเบอร์ดีน มาเข้าถิ่น แอนฟิลด์ ในซัมเมอร์นี้ ด้วยค่าตัวราว 4 ล้านปอนด์ (ประมาณ 172 ล้านบาท)
"หงส์แดง" วางแผนสำหรับอนาคตด้วยการดึงบรรดาแข้งอนาคตไกลมาเสริมทัพ โดยก่อนหน้านี้ก็เพิ่งคว้า ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ กองกลางตัวรุกมาจาก ฟูแล่ม
สำหรับเจ้าหนูแรมเซย์ มีดีอย่างไร และ ลิเวอร์พูล สามารถคาดหวังอะไรจากตัวนักเตะได้บ้าง นี่คือบทวิเคราะห์จากเว็บไซต์ ดีสอีสแอนฟิลด์
สิ่งที่คาดหวัง
เจ้าหนูแรมเซย์ คว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของลีกวิสกี้ในฤดูกาลที่ผ่านมาจากสมาคมผู้สื่อข่าวสกอตแลนด์
แรมเซย์ เพิ่งอายุแค่ 18 และมีศักยภาพอีกมากที่จะพัฒนาตัวเอง โดยตอนนี้พร้อมเข้ามาเป็นตัวสำรองให้กับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็กขวาทีมชาติอังกฤษ
อายุน้อยแต่ประสบการณ์ไม่เบา
แบ็กขวาชาวสกอตต์ ลงเล่นให้ อเบอร์ดีน ไปแล้ว 39 นัด ขณะที่ในซีซั่นที่ผ่านมาลงสนาม 33 เกมในทุกรายการ ทำได้ 1 ประตู และ 9 แอสซิสต์
แรมเซย์ มีโอกาสลงดวลกับทั้ง เซลติก และ เรนเจอร์ส สองยักษ์ใหญ่ลีกสกอตแลนด์ มาแล้ว รวมทั้งติดทีมชาติสกอตแลนด์ มาทั้งรุ่นอายุต่ำกว่า 16, 17 และ 21 ปี
เข้ากับสไตล์คล็อปป์
แรมเซย์ น่าจะเข้ากับรูปแบบการเล่นของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม "หงส์แดง" เนื่องจากมีทั้งความแข็งแกร่ง, ความเร็ว และเติมเกมบุกได้ดี
ฟูลแบ็กดาวโรจน์ เข้าสกัดบอลเยี่ยม และมีความเร็วในการเดินเกมทางริมเส้นเข้าโจมตีคู่แข่ง แถมผ่านบอลเข้ากรอบเขตโทษคู่ต่อสู้ได้เยี่ยม หลังแสดงให้เห็นด้วยการทำไปถึง 9 แอสซิสต์ในฤดูกาลที่ผ่านมา
อาจเป็นการลงทุนที่คุ้มเหมือนร็อบโบ้
ลิเวอร์พูล จะจ่ายค่าตัวของ แรมเซย์ ให้ อเบอร์ดีน จำนวน 4 ล้านปอนด์ ซึ่งถือว่าไม่ได้มากเลยกับนักเตะฝีเท้าดีในยุคนี้
การลงทุนในตัว แรมเซย์ ของ ลิเวอร์พูล อาจจะคุ้มเหมือนกับที่ไปซื้อ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน แบ็กซ้ายชาวสกอตต์ มาจาก ฮัลล์ ซิตี้ ด้วยค่าตัว 8 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2017
ในเวลานี้ ร็อบโบ้ กลายเป็นหนึ่งในแบ็กซ้ายที่ดีที่สุดของ พรีเมียร์ลีก ไปแล้ว และยังเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติสกอตแลนด์ อีกด้วย
ในช่วงเริ่มต้นกับ ลิเวอร์พูล นั้น คล็อปป์ คงให้โอกาสเจ้าหนูแรมเซย์ ได้สั่งสมประสบการณ์ลงเล่นในฟุตบอลถ้วยอย่าง คาราบาว คัพ และ เอฟเอ คัพ เวลาที่ต้องการให้ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้พักบ้าง