"เรือใบสีฟ้า" ทีมจ่าฝูง ไร้พ่ายในลีกมา 4 เกมติดความพร้อมไร้ปัญหา ฟิล โฟเด้น ออกสตาร์ตตัวจริงค้ำแดนหน้า ทางด้าน "หงส์แดง" ทีมอันดับ 2 ที่ตามหลังอยู่เพียง 1 คะแนนผลงานล่าสุดชนะมา 5 เกมติดรวมทุกรายการการจัดทัพไว้ใจ ซาดิโอ มาเน่ ล่าสกอร์สู้ ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน 2565
แมนฯ ซิตี้ (1) - ลิเวอร์พูล (2)
ถ่ายทอดสด : TPF HD 1 (600) เวลา : 22.30 น.
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
แมนฯ ซิตี้ ชนะมา 3 เกมติดต่อกันรวมทุกรายการหลังเปิดบ้านเฉือนชนะ แอต.มาดริด 1-0 ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก ส่วนเกมลีกนัดล่าสุดบุกไปเชือด เบิร์นลี่ย์ 2-0 ทำให้เจ้าบ้านรั้งจ่าฝูงของตารางคะแนนหลังมี 73 แต้มจากการลงสนามไปแล้ว 30 เกมในฤดูกาลนี้ โดยมีแต้มทิ้งห่าง ลิเวอร์พูล รองจ่าฝูง อยู่ 1 แต้ม
ความพร้อมในเกมนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีมชาวสเปน ยังคงไม่สามารถใช้งาน รูเบน ดิอาส และ โคล พาล์มเมอร์ ที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน รวมไปถึง เบนฌาแม็ง เมนดี้ ถูกพักงานแบบไม่มีกำหนดจนกว่าคดีความในข้อหาข่มขืนและล่วงละเมิดทางเพศจะสิ้นสุดลง แต่มีข่าวดีคือ จะได้ตัว ไคล์ วอล์คเกอร์ พ้นโทษแบนในเกมชปล.กลับมาช่วยทีมอีกครั้ง
ส่วนการจัดทัพคาดว่า อดีตกุนซือ บาร์เซโลน่า จะมาในระบบ 4-3-3 โดยที่ ฟิล โฟเด้น จะได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า พร้อมกับมี ราฮีม สเตอร์ลิง และ แจ็ค กรีลิช ขนาบข้างในพื้นที่ริมเส้นขวา-ซ้ายตามลำดับ
ขณะที่ในแดนกลางเป็นหน้าที่ของ เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้ และ อิลคาย กุนโดกัน คอยเดินเกม ทางด้านตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กใช้งาน จอห์น สโตนส์ และ อายเมริค ลาปอร์กต์ คุมหลังบ้านอยู่ด้านหน้าผู้รักษาประตูอย่าง เอแดร์ซอน โมราเอส ที่ทำหน้าที่เฝ้าเสา
ลิเวอร์พูล ชนะมา 5 เกมติดต่อกันรวมทุกรายการหลังบุกคว้าชัยเหนือ เบนฟิก้า 3-1 ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก ส่วนเกมลีกนัดล่าสุดเปิดบ้านเชือด วัตฟอร์ด 2-0 ทำให้ทีมเยือนรั้งรองจ่าฝูงของตารางคะแนนหลังมี 72 แต้มจากการลงสนามไปแล้ว 30 เกมในฤดูกาลนี้ โดยมีแต้มตามหลัง แมนฯ ซิตี้ จ่าฝูง อยู่ 1 แต้ม
สภาพทีมในเกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน ไม่มีปัญหาผู้เล่นโดนโรคเดี้ยงเล่นงานหรือดิดโทษแบนหลังจากที่ ฟาบินโญ่ ที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บบริเวณศรีษะจากการปะทะกับ นิโกลัส โอตาเมนดี้ ในเกมกับ เหยี่ยวลิสบอน จนได้แผลเล็กน้อยสามารถลงสนามได้ตามปกติ
ส่วนการจัดทัพคาดว่า อดีตกุนซือ ดอร์ทมุนด์ จะมาในระบบ 4-3-3 โดยที่ ซาดิโอ มาเน่ จะได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า พร้อมกับมี โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ หลุยส์ ดิอาซ ขนาบข้างในพื้นที่ริมเส้นขวา-ซ้ายตามลำดับ
ขณะที่ในแดนกลางเป็นหน้าที่ของ นาบี เกอิต้า, ฟาบินโญ่ และ ติอาโก้ อัลคันตาร่า คอยเดินเกม ทางด้านตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กใช้งาน โฌแอล มาติป และ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ คุมหลังบ้านอยู่ด้านหน้าผู้รักษาประตูอย่าง อลีสซง เบ็คเกอร์ ที่ทำหน้าที่เฝ้าเสา
นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส - ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, อายเมริค ลาปอร์กต์, ชูเอา คานเซโล่ - เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้, อิลคาย กุนโดกัน - ราฮีม สเตอร์ลิง, ฟิล โฟเด้น, แจ็ค กรีลิช
ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - นาบี เกอิต้า, ฟาบินโญ่, ติอาโก้ อัลคันตาร่า - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่, หลุยส์ ดิอาซ
ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์
ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์
ผลการพบกัน 5 นัดหลังสุด
วัน/เดือน/ปี รายการ ผลการแข่งขัน
03/10/21 พรีเมียร์ลีกลิเวอร์พูล2 - 2แมนฯ ซิตี้
07/02/21 พรีเมียร์ลีกลิเวอร์พูล1 - 4แมนฯ ซิตี้
08/11/20 พรีเมียร์ลีกแมนฯ ซิตี้1 - 1ลิเวอร์พูล
03/07/20 พรีเมียร์ลีกแมนฯ ซิตี้4 - 0ลิเวอร์พูล
10/11/19 พรีเมียร์ลีกลิเวอร์พูล3 - 1แมนฯ ซิตี้
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
แมนฯ ซิตี้
05/04/22 ชนะ แอตเลติโก มาดริด 1-0 (เหย้า) ชปล.
02/04/22 ชนะ เบิร์นลี่ย์ 2-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
20/03/22 ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 4-1 (เยือน) เอฟเอ คัพ
14/03/22 เสมอ คริสตัล พาเลซ 0-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
09/03/22 เสมอ สปอร์ติ้ง ลิสบอน 0-0 (เหย้า) ชปล.
ลิเวอร์พูล
05/04/22 ชนะ เบนฟิก้า 3-1 (เยือน) ชปล.
02/04/22 ชนะ วัตฟอร์ด 2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
21/03/22 ชนะ ฟอเรสต์ 1-0 (เยือน) เอฟเอ คัพ
16/03/22 ชนะ อาร์เซน่อล 2-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
12/03/22 ชนะ ไบรท์ตัน 2-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก