ก่อนที่ฤดูกาล 2021/2022 จะเปิดฉาก มีแฟนบอลลิเวอร์พูลหลายคนกำลังเป็นห่วงอนาคตของ โฌแอล มาติป ว่าจะได้เป็นตัวเลือกแรกในการลงคุมแนวรับคู่กับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เนื่องจากทีมมีการเสริมทัพด้วยการคว้าตัว อิบราฮิม่า โกนาเต้ และ โจ โกเมซ ก็หายเจ็บกลับมาฟิตสมบูรณ์
แน่นอนว่า ฟาน ไดค์ ยังคงเป็นตัวหลักในแผงแบ็กโฟร์ "หงส์แดง" ฉะนั้นใครต่างหากที่จะได้เป็นคู่ขาของเขา โดยช่วงซัมเมอร์ไม่มีใครเชื่อว่า มาติป จะได้รับโอกาสนี้ เนื่องจากเขามีปัญหาบาดเจ็บรบกวนอย่างต่อเนื่อง และฟอร์มการเล่นก็ไม่โดดเด่นเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม อดีตดาวเตะทีมชาติแคเมอรูน ไม่สนใจเสียงวิจารณ์และตั้งหน้าตั้งตาทำงานหนัก เพื่อใช้ผลงานพิสูจน์ตัวเองมากกว่าที่จะใช้คำพูดแก้ตัว และตอนนี้สาวก "เดอะ ค็อป" ได้เห็นแล้วว่า มาติป สุดยอดแค่ไหนเมื่อเขาฟิตสมบูรณ์ และอยู่ในฟอร์มเข้าฝัก
แฟนบอล "หงส์แดง" ยอมรับว่าผลงานในฤดูกาลนี้ของ มาติป ค่อนข้างจะโดดเด่นกว่า ฟาน ไดค์ เพราะเขาแสดงให้เห็นถึงจุดเด่นในเกมเล่นเกมรุก และการส่งบอล รวมทั้งเกมรับก็ไม่มีขาดตกบกพร่อง ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่นักเตะได้รับรางวัลแข้งยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก เดือนกุมภาพันธ์ !
ฟอร์มแกร่งฟิตเปรี๊ยะ
มีหลายครั้งที่แฟนบอลลิเวอร์พูลตั้งข้อสงสัยในเรื่องศักยภาพของ มาติป แต่เหตุผลสำคัญที่เป็นขัดขวางไม่ให้เขาประสบความสำเร็จกับต้นสังกัดในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั่นก็คือสภาพความฟิต อย่างไรก็ตามนฤดูกาลนี้จะเห็นได้ว่านักเตะมีโอกาสได้ลงสนามกว่า 2,596 นาที
เมื่อสองฤดูกาลก่อนหน้า ดาวเตะชาวแคเมอรูน ได้ลงเล่นแค่ 1,910 เกม จากผลงานในตอนนี้ต้องบอกว่า ปราการหลังเจ้าของเสื้อหมายเลข 32 มีฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมที่สุดกับทีมนับตั้งแต่ที่ย้ายมาจาก ชาลเก้ 04 เมื่อปี 2016
ด้วยฟอร์มการเล่นที่คงเส้นคงวา กอปรกับสภาพความฟิตที่สมบูรณ์ทำให้เขามีโอกาสได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง และนั่นนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพของเขา และทำให้ผลงานโดดเด่นอย่างที่เห็น ที่สำคัญ มาติป น่าจะเล่นได้ดียิ่งกว่านี้ในช่วงที่เหลืออยู่ของฤดูกาลด้วย
การสกัดบอลแม่นยำ
มาติป กับ ฟาน ไดค์ เป็นกองหลังที่มักจะเคลื่อนที่เพื่อช่วยเกมตลอด โดยทั้งสองคนมักจะดันขึ้นสูงเพื่อคอยดักเช็คล้ำหน้าคู่แข่ง มากกว่าที่จะยืนจังก้าเพื่อรอตั้งรับ อย่างไรก็ตามคู่แข่งมักจะจ้องเล่นงานเขาเพราะเชื่อว่าน่าจะผ่านได้ง่ายกว่า แนวรับชาวดัตช์
กระนั้นต้องบอกว่าพวกเขาคิดผิดมหันต์เพราะ มาติป มีค่าเฉลี่ยในการเสียบสกัดถึง 3.52 ในเกมพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ โดยอัตราการสกัดบอลสำเร็จของนักเตะสูงกว่า 76 เปอร์เซนต์เลยทีเดียวซึ่งเป็นเปอร์เซนต์สูงที่สุดของเซนเตอร์แบ็กลิเวอร์พูล
นอกจากนี้ แนวรับวัย 30 ปียังมีสถิติในการบล็อกคู่แข่งเหนือกว่า ฟาน ไดค์ ด้วย ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเอาชนะในการเล่นลูกกลางอากาศได้ถึง 69.3 เปอร์เซนต์ แต่ก็คงพูดไม่ได้เต็มปากว่า มาติป มีฟอร์มที่เหนือกว่า ดาวเตะทีมชาติเนเธอร์แลนด์ กระนั้นจุดเด่นของเขาก็คือการเล่นเกมบุกที่ยอดเยี่ยม
ในขณะเดียวกัน มาติป ก็มีบทบาทในเกมรับที่โดดเด่นโดยมีส่วนช่วยต้นสังกัดเก็บ 15 คลีนชีตจาก 27 แมตช์ในลีก แน่นอนว่าการกลับมาของ ฟาน ไดค์ เป็นสิ่งสำคัญในเกมรับของ ลิเวอร์พูล แต่การได้ มาติป กลับมาฟิตสมบูรณ์ก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
กล้าลากบอลขึ้นไปเล่นเกมบุก
หนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้แฟนบอล "เดอะ เร้ดส์" ประทับใจมากๆ นั่นก็คือความกล้าที่จะลากบอลขึ้นไปเล่นเกมบุกของ มาติป โดยในฤดูกาลนี้จะเห็นได้ว่าเขาทำแบบนั้นหลายครั้ง และนำมาสู่การได้ประตูของทีมเลยทีเดียว
มาติป มักจะโชว์ให้เห็นถึงทักษะในการเลี้ยงบอลขึ้นไปยังแดนคู่แข่งบ่อยๆ และแน่นอนว่าจังหวะที่สาวก "เดอะ ค็อป" จะได้ติดตานั่นก็คือการมีทำชิงกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก่อนที่เขาจะซัดประตูสุดงามแมตช์ถล่ม ลีดส์ ยูไนเต็ด ล่าสุดก็โชว์ผลงานลากบอลขึ้นมาในแดนคู่แข่งก่อนจะแอสซิสต์ให้ หลุยส์ ดิอาซ เกมชนะ ไบรท์ตัน
ความสามารถในการเลี้ยงบอลทำให้เขาเป็นนักเตะที่เหนือกว่าผู้เล่นในตำแหน่งเดียวกัน เพราะช่วยสร้างพื้นที่ในเกมรุกให้กับ "เดอะ เร้ดส์" โดยสถิติในการพาบอลขึ้นหน้าของเขามีถึง 9.10 ต่อ 90 นาที ซึ่งต้องบอกว่ามากกว่า โม ซาลาห์ เลยทีเดียว
คู่ควรเป็นบัดดี้ฟาน ไดค์ ?
สำหรับตอนนี้ปัญหาบาดเจ็บของ มาติป ไม่มีให้เห็นอีกแล้ว โดยนักเตะทำผลงนได้อย่างแข็งแกร่งทั้งทักษะในเรื่องการผ่านบอล และการลากเลื้อยขึ้นไปเล่นเกมบุก ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะกลายเป็นขวัญใจของสาวก "เดอะ ค็อป" ไปเรียบร้อยแล้ว
มาติป สมควรได้รับเครดิตอย่างมากจากการทำงานหนักเพื่อกลับมาจากอาการบาดเจ็บ และพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าข้อสงสัยต่างๆ ที่เกี่ยวกับตัวเขาไม่มีอีกต่อไปแล้ว โดยฟอร์มของเขานับวันยิ่งโดดเด่น และพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในขณะที่หลายคนมองว่า โกนาเต้ กับ โกเมซ มีอนาคตสดใสในฐานะแนวรับสายเลือดใหม่แห่งถิ่นแอนฟิลด์ อย่างไรก็ตามในช่วงเวลานี้ต้องยอมรับว่า มาติป เป็นกองหลังที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะทำหน้าที่เป็นคู่หูเซนเตอร์แบ็กกับ ฟาน ไดค์