"หงส์แดง"ลิเวอร์พูล โชว์ฟอร์มสุดโหดเปิดบ้านเอาชนะ บียาร์เรอัล ที่เหลือผู้เล่นแค่10คน ไป 3-0 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ ด้วยประตูรวม 3-1 ในการแข่งขัน ฟุตบอล ยูโรปา ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดสอง คืนวันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
ฟุตบอล ยูโรปา ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดสอง
วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม 2559
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) 3-0 บียาร์เรอัล (สเปน)
(รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ ด้วยประตูรวม 3-1 )


สนาม : แอนฟิลด์


ลิเวอร์พูล ที่แพ้ก่อน 0-1 ในนัดแรก ได้ เอ็มเร่ ชาน ฟิตกลับมายืนแดนกลาง พร้อมส่ง แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ยืนหอกเป้าตัวจริง พร้อมตัวรุกอย่าง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ กับ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ฝั่ง บียาร์เรอัล เลือก มาเตโอ มูซัคคิโอ คุมแนวรับแทน เอริก ไบล์ลี่ ที่ยังฟิตไม่เต็มถัง แต่แดนหน้ายังจัดเต็ม โรเบร์โต้ โซลดาโด้ ล่าประตูกับ เซดริค บาก็อมบู


เริ่มเล่นเพียง 5 นาที "เยลโลว์ ซับมารีน" ได้เสียวก่อนจากบอลเปิดกราบขวาเข้าเขตโทษ โรเบร์โต้ โซลดาโด้ พักอกให้ มาริโอ กาสปาร์ ตะบันด้วยขวาแฉลบ เอ็มเร่ ชาน แต่ ซิมง มิโญเล่ต์ พุ่งปัดออกไปได้สวย


2 นาทีให้หลัง กองเชียร์ "เดอะ ค็อป" เฮกระหึ่ม แอนฟิลด์ หลังได้ประตูนำ 1-0 เนธาเนี่ยล ไคลน์ กึ่งยิงกึ่งผ่านจากกราบขวาไปหน้าประตู อัลฟงส์ อาเรโอล่า ล้มตัวปัดออกไปไม่พ้นอันตราย โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ แปจากในเขตโทษฝั่งซ้ายไปหน้าประตูผ่าน แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ไปโดน บรูโน่ โซเรียโน่ เข้าประตูตัวเองอย่างโชคร้าย


นาที 14 เจ้าบ้านหวิดบวกเพิ่ม เจมส์ มิลเนอร์ เปิดเข้าเขตโทษจากระยะ 40 หลาเข้าเขตโทษ อดัม ลัลลาน่า สอดเข้าไปตวัดยิงตามน้ำวืดแต่บอลกลิ้งผ่านเสาซ้ายมือแบบหวุดหวิด


"หงส์แดง" เป็นฝ่ายครองเกมรุกเสียส่วนใหญ่ แต่ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก บียาร์เรอัล หวิดทำช็อก โรเบร์โต้ โซลดาโด้ ปาดเรียดจากขวาเข้าเขตโทษให้ เซดริก บาก็อมบู ตวัดยิงจากระยะ 10 หลาแต่ไม่ผ่านการป้องกันของ ซิมง มิโญเล่ต์ จบ 45 นาทีแรก ลิเวอร์พูล นำ 1-0


กลับมาต่อครึ่งหลัง 5 นาที เจ้าถิ่นได้โอกาสลุ้นจาก เจมส์ มิลเนอร์ สับไกยิงด้วยซ้ายแต่ไปเข้ามือ อัลฟงส์ อาเรโอล่า


นาที 62 "หงส์แดง" หวิดได้เพิ่มจาก แดนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ได้บอลจาก โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ก่อนลากเข้าเขตโทษฝั่งขวาไปยิงยัดเสาแรกติดเซฟ อัลฟงส์ อาเรโอล่า


ทว่าให้หลังนาทีเดียว สกอร์เปลี่ยนเป็น 2-0 จนได้จากบอลเปิดกราบขวาติดบล็อกแนวรับทีมเยือนลอยไปหน้าเขตโทษเข้าทาง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ เก็บบอลจิ้มทะลุช่องให้ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ หลุดกับดักล้ำหน้าไปยิงลอดขา อัลฟงส์ อาเรโอล่า เสียบเสาขวามือเข้าไป


ลิเวอร์พูล ยิ่งเล่นยิ่งคึก นาที 65 จากจังหวะสวนกลับเร็วขึ้นมาทางซ้าย โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ พลิกบอลหนี โรเบร์โต้ โซลดาโด้ ก่อนจ่ายให้ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ จับบอลไม่ดีแต่ยังหลุดไปถึง อัลเบร์โต้ โมเรโน่ ตะบันด้วยซ้ายติดไซด์โป้งโค้งหนีประตูออกหลังไป


ถัดมา 6 นาที บียาร์เรอัล เสียเปรียบกว่าเดิมหลัง บิคตอร์ รูอิซ ทำฟาวล์ อดัม ลัลลาน่า หน้าเขตโทษเลยโดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไป


นาที 81 เจ้าบ้านได้ประตูตอกฝาโลง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ กระชากเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายถึงเส้นหลังแล้วตบเข้ากลาง ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ยิงแบบแป้กๆ แต่ยังเข้าทาง อดัม ลัลลาน่า สะกิดด้วยขวาจ่อๆ เข้าไปเป็นประตู 3-0


จากนั้น ทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม ลิเวอร์พูล ถล่ม บียาร์เรอัล 3-0 พร้อมผ่านสู่รอบชิงชนะเลิศด้วยประตูรวม 2 นัด 3-1


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล : ซิมง มิโญเล่ต์, เนธาเนียล ไคลน์, โคโล ตูเร่, เดยัน ลอฟเรน, อัลเบร์โต้ โมเรโน่, เจมส์ มิลเนอร์, เอ็มเร่ ชาน, อดัม ลัลลาน่า, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, โรเบร์โต้ ฟีร์มีโน่

บียาร์เรอัล : อัลฟงส์ อาเรโอล่า, มาริโอ กาสปาร์, มาเตโอ มูซัคคิโอ, บิคตอร์ รูอิซ, ฆวาเม่ คอสต้า, โจนาธาน โดส ซานโตส, โตมาส ปิน่า, บรูโน่ โซเรียโน่, เดนิส ซูอาเรซ, โรเบร์โต้ โซลดาโด้, เซดริค บาก็อมบู

ผู้ตัดสิน : วิคเตอร์ คาสไซ (ฮังการี)

สยามสปอร์ต