วิเคราะห์บอล ลีก คัพ : ลิเวอร์พูล (7,พรีเมียร์ลีก) -vs- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4,พรีเมียร์ลีก)
สนาม : เวมบลีย์ สเตเดี้ยม
เวลา : 23.30 น.
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
22/11/15 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แพ้ ลิเวอร์พูล 1-4
01/03/15 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1
26/08/14 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ ลิเวอร์พูล 3-1
31/07/14 ลิเวอร์พูล เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-2 (สนามกลาง-อินเตอร์เนชั่นแนล แชมเปี้ยนส์ คัพ)
13/04/14 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-2
27/12/13 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1
03/02/13 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2
26/08/12 ลิเวอร์พูล เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-2
26/01/12 ลิเวอร์พูล เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-2 (ลีก คัพ)
12/01/12 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แพ้ ลิเวอร์พูล 0-1 (ลีก คัพ)
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดในรายการนี้
ลิเวอร์พูล
23/09/15 แพ้ สโต๊ค ซิตี้ 0-1 (เหย้า) (ชนะจุดโทษ)
29/10/15 ชนะ สโต๊ค ซิตี้ 1-0 (เยือน)
02/12/15 ชนะ เซาท์แฮมป์ตัน 6-1 (เยือน)
07/01/15 แพ้ บอร์นมัธ 1-0 (เหย้า)
28/01/15 เสมอ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 1-1 (เหย้า) (ชนะจุดโทษ)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
28/01/16 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-1 (เหย้า)
07/01/16 แพ้ เอฟเวอร์ตัน 1-2 (เยือน)
02/12/15 ชนะ ฮัลล์ ซิตี้ 4-1 (เหย้า)
29/10/15 ชนะ คริสตัล พาเลซ 5-1 (เหย้า)
23/09/15 ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 4-1 (เยือน)
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
ลิเวอร์พูล
26/02/16 ชนะ เอ๊าก์สบวร์ก 1-0 (เหย้า-ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก) ต่อ 1.25 ... เสียครึ่ง
19/02/16 เสมอ เอ๊าก์สบวร์ก 0-0 (เยือน-ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก) ต่อ 0.5 ... เสีย
14/02/16 ชนะ แอสตัน วิลล่า 6-0 (เยือน) ต่อ 0.75 ... ได้
10/02/16 เสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-1 (เยือน-เอฟเอ คัพ) เสมอ ... เจ๊า
06/02/16 เสมอ ซันเดอร์แลนด์ 2-2 (เหย้า) ต่อ 1.25 ... เสีย
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
25/02/16 ชนะ ดินาโม เคียฟ 3-1 (เยือน-ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก) ต่อ ปป ... ได้
21/02/16 แพ้ เชลซี 1-5 (เยือน-เอฟเอ คัพ) รอง 1.25 ... เสีย
15/02/16 แพ้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 1-2 (เหย้า) ต่อ 0.5 ... เสีย
06/02/16 แพ้ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-3 (เหย้า) ต่อ 1.0 ... เสีย
03/02/16 ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 1-0 (เยือน) ต่อ 1.25 ... เสียครึ่ง
สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะได้ตัวของ อดัม ลัลลานา, โจ อัลเลน และ มาร์ติน สเคอร์เทล ที่กลับมาลงซ้อมร่วมกับทีมอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง แต่อาจจะมีชื่อเป็นเพียงสำรองไปก่อน เช่นเดียวกับ เดยัน ลอฟเรน ปราการหลัง โครแอ็ต สลัดอาการป่วยกลับมาลงซ้อมได้แล้ว ส่วนบรรดาตัวเจ็บก็มีพวกหน้าเดิมๆ คาดว่า คล็อปป์ จะปรับมาใช้ระบบ 4-2-3-1 โดยยังคงไว้ใจให้ ลูคัส เลว่า ยืนเซ็นเตอร์แบ็คเหมือนกับเกมล่าสุดที่เอาชนะ เอาก์สบวร์ก 1-0 และใช้ 11 ผู้เล่นตัวจริงจากเกมดังกล่าวลงเตะทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหน้าเป้าอย่าง แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ และสามประสานในแดนกลางอย่าง เจมส์ มิลเนอร์, โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่ กับ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ในขณะที่ จอร์ดอน ไอบ์, ดิว็อค โอริกี้ และ คริสติย็อง เบนเตเก้ เตรียมพร้อมสแตนบายอยู่ข้างสนาม
ส่วนทางฝั่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของผู้จัดการทีม มานูเอล เปเญกรินี่ ต้องรอลุ้นความฟิตของ วิลฟรีด โบนี่ และ เฆซุส นาบาส ที่สลัดเดี้ยงกลับมาลงซ้อมได้แล้ว ในขณะที่ ฟาเบียน เดลฟ์, เกอแว็ง เดอ บรอยน์ และ ซามีร์ นาสรี ยังคงเดี้ยงยาวทั้งสิ้น คาดว่า เปเญกรินี่ จะปรับเปลี่ยนผู้เล่นเล็กน้อยจากเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ล่าสุดที่เอาชนะ ดินาโม เคียฟ 3-1 ด้วยการส่ง วิลลี่ กาบาเญโร่ ลงเฝ้าเสาแทน โจ ฮาร์ท และน่าจะมีชื่อของดาวรุ่งอย่าง อเล็กซ์ การ์เซีย, มานู การ์เซีย, เบอร์ซานต์ เซลิน่า ติดทีมมาด้วย ส่วนบรรดาแข้งหลักอย่าง เซร์กิโอ อเกวโร่, ดาบิด ซิลบา, ยาย่า ตูเร่ และ แฟร์นันดินโญ่ ฟิตสมบูรณ์พร้อมลงสนามแน่นอน
รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : ซิมง มิโญเล่ต์ - นาธาเนี่ยล ไคลน์, ลูคัส เลว่า, มามาดู ซาโก้, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เอ็มเร่ ชาน - เจมส์ มิลเนอร์, โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ - แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4-2-3-1) : วิลลี่ กาบาเญโร่ - บาการี่ ซาญ่า, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, นิโกลัส โอตาเมนดี้, กาแอล กลิชี่ - แฟร์นันโด, ยาย่า ตูเร่ - แฟร์นันดินโญ่, ดาบิด ซิลบา, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง - เซร์กิโอ อเกวโร่
ทรรศนะ Deathphobia11
สำหรับศึกชิงแชมป์ลีกคัพประจำฤดูกาล 2015/16 หนนี้ ลิเวอร์พูล มีลุ้นที่จะสร้างเซอร์ไพรส์คว้าถ้วยใบนี้ไปครองเหมือนกัน เพราะผลงานในช่วงหลังเริ่มกลับมาอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น ด้วยการชนะ 2 จาก 3 เกมหลังสุดในทุกรายการและยังไม่เสียเลยแม้แต่ประตูเดียว นอกจากนี้การได้ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ กลับมาประจำการในแดนหน้า ยิ่งทำให้ทีมเพิ่มความน่ากลัวในเกมรุกมากยิ่งขึ้น และในขณะเดียวกันดูเหมือนว่า ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ กับ โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่ ก็เริ่มจะแผลงฤทธิ์ออกมาให้แฟนๆ ได้ชื่นใจกันถ้วนหน้า แถมเกมรับที่มี ลูคัส เลว่า ยืนปักหลักอยู่ก็ดูจะแน่นขึ้นเป็นกอง เชื่อเลยว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ คงเห็นแววอะไรบางอย่างของลูกทีมแน่นอน ส่วนทางฝั่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เพิ่งจะเอาชนะปลดล็อกสำเร็จ หลังบุกถล่ม ดินาโม เคียฟ 3-1 ในบอลถ้วยยุโรป แต่ฟอร์มการเล่นก่อนหน้านั้น 3 นัดแพ้รวดและเสียไปถึง 10 ประตูเลยทีเดียว น่าสนใจคือเกมรับที่พร้อมจะโดนเล่นงานอยู่เสมอ น่าจะเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ "หงส์แดง" เจาะเข้าทำได้ง่าย อีกทั้งสถิติการพบกัน 2 ครั้งท้าย ก็ยังแพ้รวดแบบไม่ไว้หน้า (1-2, 1-4) บอกเลยงานนี้ "เรือใบสีฟ้า" ไม่น่าจะเอาชนะได้ง่ายๆ และน่าจะต้องมียื้อกันถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ ฟันธง! อยู่รอง ลิเวอร์พูล สู้ขาดใจ...!
ชี้ชัด : เชียร์ทีมรอง
ฟันธง : "ลิเวอร์พูล เสมอ 1-1 / ชนะ 2-1"
อัตราความมั่นใจ : 8/10