"หงส์แดง"ลิเวอร์พูล จัดนักเตะชุดใหญ่ลงสนาม นำโดย โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ดาวเตะคนสำคัญ บุกถิ่น เอาก์สบวร์ก ที่นำมาโดย ราอูล โบบาดีย่า กองหน้าคนสำคัญ ในศึก ฟุตบอล ยูโรปา ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดแรก คืนวันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ ศกนี้


ปรีวิว ฟุตบอล ยูโรปา ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดแรก
วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ 2559
เอาก์สบวร์ก (เยอรมัน)-ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)


สนาม : ดับเบิลยูดับเบิลยูเค อารีน่า


มาร์คุส ไวน์ซีเริ่ล เทรนเนอร์เอาก์สบวร์กที่พาทีมสร้างเซอร์ไพรส์จบอันดับ 5 จนคว้าตั๋วยูโรปา ลีก ซีซั่นที่แล้ว มาฤดูกาลนี้ผลงานไม่ดีอยู่อันดับ 14 ต้องดิ้นรนหนีตกชั้น


ในรอบแบ่งกลุ่ม ยูโรปา ลีก พวกเขาปล้นเข้ารอบมาอย่างเหลือเชื่อ จากประตูชัยนาที 89 ของ ราอูล โบบาดิย่า ในเกมบุกชนะปาร์ติซาน 3-1


สภาพทีมมีข่าวดีเมื่อได้ อเล็กซานเดอร์ เอสไวน์ กับ โดมินิค โคห์ร 2 กองกลาง พ้นโทษแบนเกมยุโรป 1 นัดกลับมาพร้อมกัน


ก่อนหน้านี้ต้องเสีย ชี ดอง-วอน ศูนย์หน้าเกาหลีใต้บาดเจ็บ


การจัดทัพพร้อมส่งเอสไวน์ลงสนามทันที ประสานงานกับโคห์ร, ปิโอเตอร์ โทรชอฟสกี้ และ คู จา-โชล ส่วนแนวรุก โบบาดิย่าต้องระวังใบเหลืองเพิ่ม เพราะคาดโทษอยู่คนเดียว


ฝั่งลิเวอร์พูลของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ นำทีมกลับสู่เส้นทางแห่งชัยชนะอีกครั้ง หลังบุกถล่มแอสตัน วิลล่า ทีมบ๊วยกระจุย 6-0 เมื่อวันอาทิตย์


สภาพทีม มาร์ติน สเคอร์เทล และ เดยัน ลอฟเรน คู่เซนเตอร์ตัวหลักซ้อมแล้ว แต่ยังฟิตไม่พอลงเล่น


ข่าวดีจากเกมลีกล่าสุดคือ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, แดเนียล สเตอร์ริดจ์ และ ดิว็อค โอริกี้ ฟิตกลับมาลงสนามทั้งหมดแล้ว โดย 2 รายหลังทำประตูด้วย


กองกลางยังขาด โจ อัลเลน ที่เจ็บกล้ามเนื้อหลังเข่า ต้องพักหลายสัปดาห์ ส่วน อดัม ลัลลาน่า (น่อง) กับ ลูคัส เลวา (เอ็นหลังเข่า) ที่พลาดเกมกับวิลล่าต้องรอเช็กความฟิต


สำหรับทีมชุดยูโรปา ลีก คล็อปป์เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ใส่ชื่อ สตีเว่น คอลเกอร์ กองหลังตัวใหม่, แดนนี่ วอร์ด ประตูดาวรุ่ง และ เจา คาร์ลอส เตเซร่า มิดฟิลด์ เข้ามาแทน อดัม บ็อกดาน ที่ฟอร์มตก, โจ โกเมซ และ แดนนี่ อิงส์ ที่เดี้ยงยาว


ขณะเดียวกัน ยังไม่มีที่ว่างสำหรับ โฆเซ่ เอ็นริเก้ กับ จอน ฟลานาแกน แม้หายเจ็บกลับมาแล้วทั้งคู่


เกมนี้จะเป็นโอกาสของ คริสติย็อง เบนเตเก้ ศูนย์หน้าปืนฝืดที่จะได้พิสูจน์ฝีเท้า เช่นเดียวกับ ดิว็อค โอรีกี้, จอร์ดอน ไอบ์ และ สตีเว่น คอลเกอร์


ส่วน แดเนียล สเตอร์ริดจ์ คงได้พักหรือไม่ก็นั่งสำรอง เพราะต้องใช้งานอย่างระมัดระวัง


รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

เอาก์สบวร์ก (4-2-3-1) : มาร์วิน ฮิตซ์ - พอล แฟร์เฮช, คริสคอฟ ยานเคอร์, รักนาร์ คลาวาน, ฟิลิปป์ มักซ์ - โดมินิก โคห์ร, คู จา-ชอล - อเล็กซานเดอร์ เอสส์ไวน์, ยาน โมราเว็ค, คายูบี้ - ราอูล โบบาดีย่า

ลิเวอร์พูล (4-4-2) : ซิมง มิโญเลต์ - นาธาเนียล ไคลน์, โคโล ตูเร่, มามาดู ซาโก้, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ - เจมส์ มิลเนอร์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เอ็มเร่ ชาน, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ - แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่

ผู้ตัดสิน : ดาบิด เฟร์นานเดซ บอร์บาลัน (สเปน)


เกร็ดการแข่งขัน เอาก์สบวร์ก (เยอรมัน) - ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)

- เอาก์สบวร์กเล่นถ้วยยุโรปเป็นครั้งแรก และสามารถผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ได้ทันที

- ลิเวอร์พูลถูกเขี่ยตกรอบ 32 ทีมตลอด 2 ครั้งที่เล่นยูโรปา ลีก โดยพ่ายเซนิตในปี 2013 และพ่ายเบซิคตัสเมื่อปีที่แล้ว

- ลิเวอร์พูลมีค่าเฉลี่ยครองบอล 62.2% ในรอบแบ่งกลุ่ม เป็นรองแค่ดอร์ทมุนด์ (71.4%) และนาโลี (63.5%)

- หงส์แดงชนะ 4 จาก 5 เกมหลังสุดที่พบทีมจากเยอรมันในถ้วยยุโรป (อีกเกมที่เหลือเป็นฝ่ายแพ้) โดย 4 จากจำนวนดังกล่าวเป็นการพบไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น

- ไม่มีผู้เล่นยิงประตูมากกว่า ราอูล บาโบดิย่า ของเอาก์สบวร์ก ในยูโรปา ลีก ฤดูกาลนี้ (6 ลูกเท่า อาริตซ์ อาดูริซ)

- ลิเวอร์พูลชนะแค่ครั้งเดียวในการเยือนทีมเยอรมัน ถ้วยยุโรป (เสมอ 6 แพ้ 5) แต่มันเกิดขึ้นจากหนล่าสุดที่มาเยือนเมื่อมีนาคม 2005 ซึ่งพวกเขาชนะเลเวอร์คูเซ่นในรอบ 16 ทีม ชปล. ก่อนคว้าแชมป์ในปีดังกล่าว

- มีเพียงเพื่อนร่วมกลุ่มอย่างซิยงที่ยิงประตูได้น้อยกว่าลิเวอร์พูล (6) ในบรรดาสโมสรที่ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ (ไม่รวมทีมจากแชมเปี้ยนส์ ลีก)

- เจอร์เก้น คล็อปป์ ชนะ 5 จาก 8 เกมบุนเดสลีกาที่คุมทีมพบเอาก์สบวร์ก โดยเสมอ 2 แพ้ 1 แต่ความพ่ายแพ้นัดเดียวมาจากการเกมล่าสุดที่เจอกัน เมื่อกุมภาพันธ์ 2015 โดย ราอูล โบบาดิย่า ทำประตูเดียวของเกม

สยามสปอร์ต