อดัม ลัลลานา เชื่อว่า ลิเวอร์พูลสามารถถูกตำหนิ หลังได้แค่แต้มเดียวจากเกมวันเสาร์ ที่พบกับซันเดอร์แลนด์ หลังเสีย 2 ประตูช่วงท้าย และยืนยันว่า เราต้องโทษตัวเอง
หงส์แดงทำท่าจะเก็บชัยชนะเหนือทีมแมวดำที่แอนฟิลด์ หลังทำประตูจากโรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ และลัลลานา ทำให้พวกเขาขึ้นนำ 2 ประตูในครึ่งหลัง แต่ฟรีคิกของอดัม จอห์นสัน ในนาทีที่ 82 และประตูในนาทีที่ 89 ของเจอร์เมน เดโฟ ทำให้ทีมของแซม อัลลาไดซ์ แบ่งแต้มกลับไป ซึ่งลัลลานายอมรับว่า ทีมของเขาควรจะทำได้ดีกว่านี้ในอนาคต
มันน่าผิดหวังทุกๆ เกมไม่ว่าใครจะลงเล่นที่ขึ้นนำ 2-0 ใน 10 นาทีสุดท้าย (และมาเสีย 2 ประตู) เขากล่าวกับ Liverpoolfc.com
เราต้องโทษตัวเองเท่านั้น เราน่าจะถอยลงต่ำไปหน่อยในแง่ทีม และไม่ทำสิ่งที่เราทำตลอดครึ่งหลัง เพื่อทำประตู
แน่นอนอย่างยิ่งว่า เราไม่ได้ชะล่าใจ หรือ ไม่คิดว่า เราชนะเกมแล้ว แต่สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น และเราต้องรับผิดชอบกับมัน
ความผิดหวังที่เกิดขึ้น ไม่ต้องสงสัยว่า มาจากความจริงที่ว่า ฟอร์มครึ่งหลังของทีมน่าจะดีเพื่อเก็บชัยชนะ แต่ลัลลานายืนยันว่า เขา และเพื่อนร่วมทีมต้องปรับปรุงความนิ่งในกรอบเขตโทษ โดยเฉพาะหลังจากพูดคุยเรื่องนี้ในห้องแต่งตัว
แม้แต่ในช่วงครึ่งแรก เราเข้าไปในพื้นที่ที่ดี แต่อาจจะขาดสัญชาตญานนักฆ่า เราขาดการผ่านบอลในจังหวะสุดท้าย เขากล่าวเสริม
ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เราคุยกันระหว่างพักครึ่ง ตัดสินใจให้เหมาะสม และครึ่งหลังเราทำได้ดีขึ้นมาก
ตอน 2-0 นักเตะมั่นใจมาก ดังนั้นมันน่าผิดหวังมาก ที่เรามาเสีย 2 ประตูท้ายเกม
ลิเวอร์พูลไม่มี เจอร์เก้น คล็อปป์ ในการเจอทีมแมวดำ หลังโค้ชชาวเยอรมนีต้องรักษาตัวจากการผ่าตัดไส้ติ่งในวันเสาร์ แต่ลัลลานาไม่เชื่อว่า การขาดผู้จัดการทีมจะเป็นข้อแก้ตัวกับการเสีย 2 ประตู และชี้ว่า มันสำคัญมาก ที่ทีมต้องตอบโต้จากเกมเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในเอฟเอ คัพ วันอังคารนี้
ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนเดิม ผู้จัดการทีมออกมานำเสนอแผน ตั้งแต่เมื่อคืน แต่แน่นอนว่า เขาต้องเร่งออกไปผ่าตัด เขาอธิบาย
หวังว่า เขาจะหายดี และฟื้นตัว แต่มันน่าเสียดาย ที่เราไม่ได้มอบผลการแข่งขัน เพื่อเขาในวันนี้
มัน (ตอนนี้) ง่ายมาก คือ ทำงานให้หนักที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทำให้หนักยิ่งกว่าเดิม
เรามีอีกเกมในวันอังคาร สิ่งที่ดีที่สุดในฐานะนักเตะ คือ กลับมาลงสนามโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และทำทุกอย่างให้ถูกต้อง
ฟอร์มในลีกของเราไม่ดีนัก ดังนั้นเราต้องทำให้แน่ใจว่า วันอังคารเราจะยังอยู่ (ในเอฟเอ คัพ)