ลิเวอร์พูลต้องพบกับความผิดหวัง เมื่อออกไปพ่ายเลสเตอร์ ซิตี้ 2-0 ในรายการบาร์เคลย์ส พรีเมียร์ลีก ที่คิง เพาเวอร์ สเตเดียม
ลูกยิงไกลอันงดงามของเจมี วาร์ดี เบิกสกอร์ให้ทีมเจ้าบ้านเมื่อเกมผ่านไปครบหนึ่งชั่วโมง ส่งบอลผ่านมือไซม่อน มินโญเลต์ ด้วยลูกฮาล์ฟวอลเลย์ หลังจากได้บอลวางยาวขึ้นหน้าจากริยาด มาห์เรซ
กองหน้ารายนี้ทำประตูที่สองเพิ่มได้ หลังจากลูกยิงของชินจิ โอกาซากิ ไปแฉลบ ก่อนบอลไหลผ่านมาเข้าทาง เป็นประตูย้ำชัยเหนือทีมหงส์แดง
ก่อนเกม เจอร์เก้น คล็อปป์ เปลี่ยนแปลงทีม 8 ตำแหน่ง เมื่อลิเวอร์พูลกลับมาทำหน้าที่ในลีก โดยมินโญเลต์, เดยัน ลอฟเรน และเนธาเนียล ไคลน์ ลงเป็นตัวจริงหลังจากลงเล่นในเกมเอฟเอ คัพ กับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด
เมื่อเริ่มเกมได้เพียงหนึ่งนาที มาห์เรซได้บอลควบเข้าไปที่ริมกรอบเขตโทษ และยิงเฉี่ยวโคนเสาออกไป
เจ้าบ้านเริ่มต้นเกมได้ตั้งแต่ต้น และเกือบขึ้นนำจากจังหวะที่โคกาซากิได้โหม่งบอลจากลูกครอสของวาร์ดี แต่เป็นมินโญเลต์ที่ปัดออกไป
ในอีกฟากของสนาม ลิเวอร์พูลพยายามเดินเครื่อง ทั้งอัลเบร์โต้ โมเรโน่, เจมส์ มิลเนอร์ และจอร์แดน เฮนเดอร์สัน และเป็นเอ็มเร ชานที่เกือบได้ทำประตูจากระยะหกหลา แต่แคสเปอร์ ชไมเคิล ยืดตัวปัด แต่กรรมการยกธงให้เป็นจังหวะล้ำหน้าของกองกลางชาวเยอรมันก่อน
จากนั้น มาห์เรซได้ทดสอบมินโญเลต์อีกครั้ง จากลูกวอลเลย์ระยะไกล แต่เป็นลิเวอร์พูลที่เริ่มต่อเกมได้
เกมในครึ่งแรกจบลงแบบไร้สกอร์ แต่เมื่อเริ่มครึ่งหลัง ลิเวอณืพูลทำได้ใก้เคียงในจังหวะยิงของชาน แต่แฉลบออกไป
ลิเวอร์พูลดูเหมือนจะครองบอลได้มากกว่าเจ้าย้านในช่วงต้นครึ่งหลัง แต่ประตูปลดล็อกของเกมเกิดขึ้นเมื่อเกมดำเนินผ่านไปครบหนึ่งชั่วโมง
บอลวางยาวของมาห์เรซจากแดนของเจ้าบ้าน ไปเข้าทางวาร์ดี ซึ่งกองหน้ารายนี้ปล่อยบอลตกพื้นหนึ่งครั้งก่อนที่จะฮาล์ฟวอลเลย์เสียบมุมอย่างสวยงามจากระยะไกล
คล็อปป์ตอบโต้ด้วยการส่งคริสเตียน เบนเตเก้ ลงมาแทนเฮนเดอร์สัน แต่ความหวังที่จะตีเสมอในเกมต้องจบลง หลังวาร์ดีทำประตูที่สองได้ในนาทีที่ 72 เมื่อโอกาซากิพยายามยิงจากกราบขวา แต่ถูกกองหลังทีมเยือนสกัดไว้ได้ ก่อนที่บอลจะไหลมาเข้าทางนักเตะหมายเลข 9 ของเลสเตอร์ ซิตี้ ที่หวดบอลผ่านมือมินโญเลต์ และเก็บสามแต้มไปได้สำเร็จ