วิเคราะห์บอล ลีก คัพ : ลิเวอร์พูล (7,พรีเมียร์ลีก) -vs- สโต๊ค ซิตี้ (9,แชมเปี้ยนชิพ)
สนาม : แอนฟิลด์
เวลา : 02.45 น.
ราคา : ลิเวอร์พูล ต่อ ครึ่งควบลูก(ลบสิบ)
ผลการแข่งขันเลกแรก : สโต๊ค ซิตี้ 0-1 ลิเวอร์พูล
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
06/01/16 สโต๊ค ซิตี้ แพ้ ลิเวอร์พูล 0-1 (ลีก คัพ)
09/08/15 สโต๊ค ซิตี้ แพ้ ลิเวอร์พูล 0-1
24/05/15 สโต๊ค ซิตี้ ชนะ ลิเวอร์พูล 6-1
29/11/14 ลิเวอร์พูล ชนะ สโต๊ค ซิตี้ 1-0
13/01/14 สโต๊ค ซิตี้ แพ้ ลิเวอร์พูล 3-5
17/08/13 ลิเวอร์พูล ชนะ สโต๊ค ซิตี้ 1-0
27/12/12 สโต๊ค ซิตี้ ชนะ ลิเวอร์พูล 3-1
07/10/12 ลิเวอร์พูล เสมอ สโต๊ค ซิตี้ 0-0
18/03/12 ลิเวอร์พูล ชนะ สโต๊ค ซิตี้ 2-1 (เอฟเอ คัพ)
14/01/12 ลิเวอร์พูล เสมอ สโต๊ค ซิตี้ 0-0
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดในรายการนี้
ลิเวอร์พูล
06/01/16 ชนะ สโต๊ค ซิตี้ 1-0 (เยือน)
03/12/15 ชนะ เซาท์แฮมป์ตัน 6-1 (เยือน)
29/10/15 ชนะ บอร์นมัธ 1-0 (เหย้า)
24/09/15 เสมอ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 1-1 (เหย้า) (ชนะจุดโทษ)
28/01/15 แพ้ เชลซี 0-1 (เยือน) (ต่อเวลาพิเศษ)
สโต๊ค ซิตี้
06/01/16 แพ้ ลิเวอร์พูล 0-1 (เหย้า)
02/12/15 ชนะ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ 2-0 (เหย้า)
28/10/15 เสมอ เชลซี 1-1 (เหย้า) (ชนะจุดโทษ)
23/09/15 ชนะ ฟูแล่ม 1-0 (เยือน)
26/08/15 เสมอ ลูตัน ทาวน์ 1-1 (เยือน) (ชนะจุดโทษ)
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
ลิเวอร์พูล
23/01/16 ชนะ นอริช ซิตี้ 5-4 (เยือน) ต่อ 0.5 ... ได้
21/01/16 ชนะ เอ็กเซเตอร์ ซิตี้ 3-0 (เหย้า-เอฟเอ คัพ) ต่อ 2.0 ... ได้
17/01/16 แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-1 (เหย้า) ต่อ ปป ... เสีย
14/01/16 เสมอ อาร์เซน่อล 3-3 (เหย้า) เสมอ ... เจ๊า
09/01/16 เสมอ เอ็กเซเตอร์ ซิตี้ 2-2 (เยือน-เอฟเอ คัพ) ต่อ 0.75 ... เสีย
ฟอร์มเกมเหย้าในลีก แข่ง 6 ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 3 ได้ 5 เสีย 7
สโต๊ค ซิตี้
23/01/16 แพ้ เลสเตอร์ ซิตี้ 0-3 (เยือน) รอง 0.5 ... เสีย
18/01/16 เสมอ อาร์เซน่อล 0-0 (เหย้า) รอง ปป ... ได้ครึ่ง
14/01/16 ชนะ นอริช ซิตี้ 3-1 (เหย้า) ต่อ 0.5 ... ได้
09/01/16 ชนะ ดอนคาสเตอร์ โรเวอร์ส 2-1 (เยือน-เอฟเอ คัพ) ต่อ 0.5 ... ได้
06/01/16 แพ้ ลิเวอร์พูล 0-1 (เหย้า-ลีก คัพ) รอง ปป ... เสีย
ฟอร์มเกมเยือนในลีก แข่ง 9 ชนะ 2 เสมอ 4 แพ้ 3 ได้ 10 เสีย 13
สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ พาลูกทีมกุมความได้เปรียบก่อนในเกมแรก หลังบุกไปเอาชนะได้ 1-0 สำหรับความพร้อมของทีมในวันนี้จะไม่มีชื่อของ นาธาเนี่ยล ไคลน์ แบ็คขวาตัวหลักที่เจ็บเข่าและชวดลงซ้อมร่วมกับทืม และน่าจะเป็นโอกาสของ จอน เฟลนาแกน ที่จะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงหนแรกนับตั้งแต่ที่เจ็บยาวปีครึ่ง ในขณะที่ เดยัน ลอฟเรน กองหลังโครแอตสลัดเดี้ยงกลับมาลงซ้อมได้แล้ว แต่น่าจะยังไม่พร้อมลงเล่น ส่วนในรายของ สตีเว่น คอลเกอร์ ปราการหลังตัวใหม่ติดคัพ-ทาย หมดสิทธิ์ลงช่วยทีมแน่นอน
คาดว่า คล็อปป์ จะเน้นมากขึ้นกว่าเกม เอฟเอ คัพ และส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงประคองเกมหลายราย ไม่ว่าจะเป็น ซิมง มิโญเล่ต์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, อดัม ลัลลานา, โจ อัลเลน, เอ็มเร่ ชาน, โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่ และ อัลเบร์โต้ โมเรโน่ รวมไปถึงพวกดาวรุ่งที่มีชื่อติดทีมมาด้วยอย่าง แดนนี่ วอร์ด นายทวารชาวเวลส์, คอนเนอร์ แรนดอลล์ แบ็คขวาวัย 20 ปี, แบร็ด สมิธ แบ็คซ้ายออสซี่และ เจา เตียเซียร่า เพลย์เมกเกอร์โปรตุกีส รอโอกาสสอดแทรกลงสนาม
ส่วนทางฝั่งผู้มาเยือน สโต๊ค ซิตี้ ของผู้จัดการทีม มาร์ค ฮิวจ์ส เพิ่งจะทำทีมแพ้ เลสเตอร์ ซิตี้ เละเทะ 0-3 และทำให้ 2 เกมหลังสุดไม่สามารถทำประตูได้เลย สำหรับความพร้อมของทีมล่าสุดมีลุ้นการกลับมาลงสนามอีกครั้งของ มาร์โก อาร์เนาโตวิช และ โบยาน เกอร์กิช สองแข้งที่ไม่ได้ลงเล่นในเกมลีกล่าสุด ในขณะที่ เจฟฟ์ คาเมร่อน มิดฟิลด์ตัวรับอเมริกันเป็นเพียงรายเดียวที่เดี้ยงอยู่ คาดว่า ฮิวจ์ส เตรียมจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงเล่นแบบไม่กั๊ก เพราะต้องการปิดสกอร์เพื่อโอกาสเข้ารอบต่อไป และน่าจะใช้ผู้เล่นถึง 9 รายจากเกมลีกล่าสุดบวกกับสองแข้งหายเจ็บข้างต้นรวมไปด้วย ซึ่งทำให้ โจนาธาน วอลเตอร์ส กับ มาเม่ บิรัม ดิอุฟ อาจต้องหลุดเป็นสำรอง
รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ซิมง มิโญเล่ต์ - จอน เฟลนาแกน, โคโล ตูเร่, มามาดู ซาโก้, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ - เอ็มเร่ ชาน, ลูคัส เลว่า, โจ อัลเลน - อดัม ลัลลานา, โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่, จอร์ดอน ไอบ์
สโต๊ค ซิตี้ (4-2-3-1) : แจ็ค บัตแลนด์ - เกล็น จอห์นสัน, ไรอัน ชอว์ครอส, ฟิลิปป์ วอลส์ไชด์, เอริค ปีเตอร์ส - อิบราฮิม อเฟลลาย, เกล็น วีแลน - เซอร์ดาน ชากิรี่, โบยาน เกอร์กิซ, มาร์โก อาร์เนาโตวิช - โฆเซลู
ทรรศนะ Deathphobia11
เจ้าบ้าน ลิเวอร์พูล ดูดีกว่าทั้งสภาพจิตใจและสถานการณ์ เพราะเกมล่าสุดที่เพิ่งจะเอาชนะ นอริช ซิตี้ สุดระทึก 5-4 น่าจะทำให้ความมั่นใจมีมากขึ้นและชี้ให้เห็นถึงเกมรับที่ต้องรัดกุมมากกว่านี้ อย่างไรก็ดีฟอร์มการเล่นของ "หงส์แดง" 2 เกมท้ายในทุกรายการ ไม่น่าเชื่อว่าจะยิงได้ถึง 8 ลูกซึ่งมากกว่า 7 เกมก่อนหน้ารวมกัน เท่านั้นยังไม่พอผลการพบกัน 2 หนหลังสุดในทุกถ้วยฤดูกาลนี้ของทั้งคู่ก็ยังสามารถเอาชนะได้รวด น่าจะทำให้ "ช่างปั้นหม้อ" หนาวๆ ร้อนๆ ได้เหมือนกัน เพราะ สโต๊ค ซิตี้ โชว์ฟอร์มออกทะเลในช่วง 2 นัดหลังสุด ด้วยการไม่ชนะใครเลยและยิงใครไม่ได้อีกด้วย นอกจากนี้ผลการแข่งขันจากเลกแรกน่าจะทำให้พวกเขาไม่มีทางเลือกและต้องเดินหน้าลุย ซึ่งคงเข้าทางเจ้าถิ่นที่รอจังหวะสวนกลับเร็วหวังเข้าทำประตู มองแล้วโอกาสที่เทพธิดาแห่งชัยชนะจะเข้าข้าง ลิเวอร์พูล มีสูง เมื่อพิจารณาจากเรทครึ่งควบ ไม่น่ามีปัญหาสำหรับท่านต่อ ฟันธง! เชียร์ "หงส์แดง" แรงไม่ตก...!