เวย์น รูนี่ย์ กลายเป็นฮีโร่แฟนผี เมื่อตะบันประตูนำชัยให้ "ปีศาจแดง" บุกเชือด ลิเวอร์พูล คา แอนฟิลด์ 1-0 ในศึกแดงเดือดครั้งที่ 194 ทั้งๆ ที่รูปเกมเป็นรองเจ้าถิ่นเกือบตลอด และมีโอกาสหวาดเสียวแทบนับครั้งได้ ผิดกับ "หงส์แดง" ที่สร้างจังหวะเพียบ ทว่าขาดความเด็ดขาดเอง ถือเป็นการชนะรวด 100% ยามทำศึกแดงเดือดของ หลุยส์ ฟาน กัล (4 ครั้งในพรีเมียร์ลีก)
เจ้าถิ่นเขี่ยบอลเริ่มเกมก่อน และทั้งสองทีม ผลัดกันรุก-รับ จากนั้น นาทีที่ 9 มารูอาน เฟลไลนี่ โดน ลูคัส กองกลาง ลิเวอร์พูล เข้าอัดเต็มๆ จนลงไปกอง อย่างไรก็ตาม หลังเข้ารับการปฐมพยาบาลแล้ว ดาวเตะ ปีศาจแดง ก็กลับมาเล่นได้ต่อ



อึดใจถัดมา เจ้าบ้านหวิดขึ้นนำ เมื่อ ลูคัส วางยาวให้ ลัลลาน่า สอดเข้าไปโหม่ง ทว่าติด ดาบิด เด เคอา ที่วิ่งออกมาปิดมุมตรงหัวกระโหลก ก่อนบอลทะลักมาถึง ฟีร์มิโน่ ซัดไกลจาก 20 หลา ลูกพุ่งถากเสาไปชนิดเส้นยาแดงผ่าแปดทีเดียว



ลิเวอร์พูล ได้โอกาสอีกครั้ง นาทีที่ 12 จากจังหวะที่ ฟีร์มิโน่ วางจากกราบซ้ายข้ามฟากไปทางขวาให้ มิลเลอร์ หลุดทะลุเข้าไปตะบันในกรอบเขตโทษ ทว่าหลุดกรอบไป



เกมเดือดในนาทีที่ 15 เมื่อคู่กรณีเดิมอย่าง เฟลไลนี่ มีปัญกับ ลูคัส อีก ก่อนที่ผู้ตัดสิน มาร์ค แคล็ตเท่นเบิร์ก ต้องเรียกไปตักเตือนทั้ง 2 คน จากนั้น ลูคัส เข้าช้าใส่ อันเดร์ เอร์เรร่า ทว่ายังโชคดีที่ไม่โดนใบเหลือง



ผ่าน 15 นาทีแรก ลิเวอร์พูล เริ่มครองเกมได้เหนือกว่าตามเสียงเร่งเร้าของแฟนๆ และมีโอกาสลุ้นอีกครั้งจากลูกตะบันไกลของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีม แต่ข้ามคานออกไป



เจ้าถิ่นบุกกดดันผู้มาเยือนพักใหญ่ ก่อนที่ "เร้ด อาร์มี่" จะได้สับไกครั้งแรกตอนครึ่งชั่วโมง จากจังหวะที่ มาร์กซิยาล ไหลให้ เอร์เรร่า ยิงปลิ้นๆ หลุดกรอบไป จากนั้น "หงส์แดง" น่าได้สุดๆ จากการประสานงานไหลลื่น โดยจบที่ ฟีร์มิโน่ ไขว้ให้ เฮนเดอร์สัน หลุดเข้าไปสับไกถากเสาสองนิดเดียวเท่านั้น



เกมเพรสซิ่งของ หงส์แดง เล่นงาน แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ไม่น้อยเลย ท้ายครึ่งแรก แอชลี่ย์ ยัง มีอาการเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ ฟาน กัล ขยับส่งดาวรุ่งวัย 18 อย่าง คาเมรอน บอธวิค-แจ็คสัน ลงมาแทนในตำแหน่งแบ๊กซ้าย พร้อมโยก มัตเตโอ ดาร์เมียน ไปยืนทางขวา ก่อนจะได้ลุ้นเล็กๆ เมื่อ มาร์กซิยาล พาบอลจี้เข้าไปกระหน่ำติดบล็อค มามาดู ซาโก้ จบครึ่งแรก สกอร์ยังอยู่ที่ 0-0



ครึ่งหลัง รูปเกมยังเป็นเหมือนเดิม และ หงส์แดง ใกล้เคียงอีกครั้งในนาทีที่ 50 เมื่อ เอ็มเร่ ชาน กระชากหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วซัดเน้นๆ บอลไปติดขา เด เคอา แล้วผ่านหน้าปากประตูไปอย่างเหลือเชื่อ



หงส์แดง เดินเครื่องลุยแหลก ขณะที่ ปีศาจแดง พยายามตอบโต้ในนาทีที่ 56 จากจังหวะที่ บอธวิค-แจ็คสัน เปิดจากซ้ายเข้าไปติด รูนี่ย์ ก่อนบอลเด้งมาเข้าทาง มาร์กซิยาล ที่แตะหนีออกซ้ายไปกดมุมแคบผ่านหน้าปากประตูไป



เร้ด อาร์มี่ ฟ้องจะเอาจุดโทษ เพราะมองว่า มาร์กซิยาล โดน ซาโก้ เกี่ยวขาล้มในกรอบ แต่ผู้ตัดสินไม่ให้ ก่อนที่ ดาร์เมียน จะเติมขึ้นมาซัดไกลในนาทีที่ 61 บอลเหินข้ามคานไปเยอะ



เกมเปิดแลกหมัดกัน จังหวะถัดมา หงส์แดง ได้เสียว เมื่อ ฟีร์มิโน่ หลอกล่อ ดาร์เมี่ยน ก่อนไหลจากซ้ายเข้ากลางให้ เฮนเดอร์สัน บรรจงตั้งเท้าแป แต่ไปตรงตัว เด เคอา จากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด เปลี่ยนอีกคนโดยให้ ฆวน มาต้า ฮีโร่ที่ยิง 2 เม็ดที่สนามแห่งนี้ซีซั่นก่อน ลงแทน ลินการ์ด



ลิเวอร์พูล บุกหนัก นาทีที่ 66 ชาน เก็บตกส่องไกลกำลังจะเสียบมุม แต่ เด เคอา บินปัดไว้ได้ด้วยปลายมือ ก่อนนายทวารสแปนิช จะลุกขึ้นมาปัดลูกซ้ำของ ฟีร์มิโน่ ได้อีกในจังหวะต่อเนื่องกัน



เหลืออีกราว 20 นาที ฟาน กัล เปลี่ยนคนสุดท้ายโดยให้ เมมฟิส เดปาย แทน เอร์เรร่า แต่เกือบสังเวยประตู จากจังหวะที่ มิลเนอร์ หยอดจากขวาไปเสาสองให้ ซาโก้ โหนโหม่งเชิดข้ามคานไป



เข้าสู่นาทีที่ 75 เฟลไลนี่ โดนใบเหลืองจากการไปอัด เฮนเดอร์สัน หลังจากที่ รูนี่ย์ ทำบอลเสีย จากนั้น คล็อปป์ ขยับเปลี่ยนตัวบ้าง โดยให้ จอร์ดอน ไอบ์ แทน ลัลลาน่า



อีก 3 นาทีต่อมา แมนฯ ยูไนเต็ด ที่แทบไม่มีโอกาสเสียวเลย กลับได้ประตูนำจากจังหวะเตะมุมสั้นทางขวาที่ ดาเล่ย์ บลินด์ เปิดให้ มาต้า เปิดให้ เฟลไลนี่ เทกตัวเหนือตัวประกบโขกไปชนคานเต็มๆ แล้วเด้งมาเข้าทาง รูนี่ย์ เอี้ยวตัววอลเล่ย์แสกหน้า ซิมง มินโยเล่ต์ เข้าไป ส่งแฟนผีเริงร่า 1-0



เหลือเวลาอีก 10 นาที คล็อปป์ ส่ง คริสติย็อง เบนเตเก้ ลงมาเสริมเกมรุก โดยถอดเอา ตูเร่ ออก พร้อมถอย ลูคัส ลงไปยืนเป็นปราการหลังตัวกลาง ก่อนที่ สตีเว่น คอลเกอร์ จะถูกส่งลงมายืนเป็นกองหน้าแทน มิลเนอร์



จากนั้น หงส์แดง พับสนามบุก แต่จังหวะสุดท้ายไม่เฉียบขาดเอง จบเกมการแข่งขัน แมนฯ ยูไนเต็ด บุกมาชนะ ลิเวอร์พูล อริตัวฉกาจ 1-0

สยามสปอร์ต