ลิเวอร์พูลรั้งตำแหน่งจ่าฝูงของกลุ่ม บี ในรายการยูโรปา ลีก เมื่อบุกไปเสมอเอฟซี ซิยง ที่สต๊าด เดอ ตูร์บิยง เมื่อคืนที่ผ่านมา
จากหนึ่งคะแนนที่เก็บได้ในเกมนี้ ทำให้ลิเวอร์พูลจบอันดับในรอบแบ่งกลุ่มด้วยตำแหน่งจ่าฝูง และได้เป็นทีมวางในการจับสลากรอบน็อกเอาท์ของรายการนี้ต่อไป
ก่อนเกมทีมเยือนได้รับข่าวดี เมื่อจอร์แดน เฮนเดอร์สัน มีชื่อกลับมาเป็นตัวจริงในเกมนี้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม รวมทั้งการกลับมาลงสนามในครึ่งหลัง ของฟิลิปเป้ คูตินโญ่ นอกจากนี้ ยังมีชื่อของโคโล ตูเร และแบรด สมิธ ในรายชื่อ 11 ตัวจริง ที่เจอร์เก้น คล็อปป์ เปลี่ยนแปลงนักเตะในทีม 6 ตำแหน่ง จากเกมกับนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ท่ามกลางอากาศที่หนาวยะเยือกที่ซิยง ลิเวอร์พูลเริ่มเกมโดยที่รู้ว่า ทีมสามารถยึดตำแหน่งจ่าฝูงของกลุ่ม บี หากไม่พลาดท่าพ่ายในเกมนี้ และจะได้เป็นทีมวางในเกมยูโรปา ลีก รอบ 32 ทีม
เกมเริ่มต้น โดยมีวิวของเทือกเขาแอลป์ส อยู่เบื้องหลัง ทั้งสองทีมต่างพยายามสร้างโอกาส แต่ไม่จะแจ้ง ก่อนที่ดิว็อค โอริกี จะได้โอกาสยิงไกล แต่บอลเฉียดเสาออกไป ในนาทีที่ 18
ในนาทีที่ 29 นักเตะสัญชาติเบลเยียมรายนี้ เกือบได้ประโยชน์จากจังหวะไหลบอลให้จากลัลลานา ก่อนที่จะถูกลีโอ ลาครัวซ์ สกัดก่อนที่จะได้ยิง
แต่กระนั้น ในช่วง 45 นาทีแรก ทั้งไซม่อน มินโญเลต์ และแอนดริส วานินส์ ผู้รักษาประตูทั้งสองทีม ต่างไม่มีปัญหาในการรับมือในจังหวะขึ้นเกมรุก
แต่ในช่วงเริ่มครึ่งหลัง โอริกี ยิงบอลไปแฉลบเจมส์ มิลเนอร์ แต่ยังตรงตัววานินส์ ก่อนที่ลาครัวซ์ จะโหม่งลูกเตะมุมข้ามคาน
เมื่อเกมดำเนินไปจนครบหนึ่งชั่วโมง คล็อปป์ส่งคูตินโญ่ลงสนาม เพื่อเพิ่มความคมในแนวรุก โดยลงมาแทนมิลเนอร์
แต่หลังจากนั้น ลิเวอร์พูลต้องพึ่งมินโญเลต์ เมื่อเอเบเนเซอร์ อัสซิฟัวห์ เกือบเกี่ยวบอลเรียดที่ผ่านมาทางกราบขวา แต่ผู้รักษาประตูรายนี้ยังสามารถตะครุบบอลที่เสาใกล้ไว้ได้
ในขณะที่เหลือเวลาอีก 20 นาที โอริกีฉกบอลได้ก่อนวานินส์ในกรอบเขตโทษ แต่ไม่มีจังหวะยิงมุมแคบ และผู้รักษาประตูกลับมาป้องกันได้อีกครั้ง จึงไม่สามารถเปลี่ยนโอกาสให้เป็นประตูได้
จากนั้น จอร์แดน รอสซิเตอร์ ลงมาแทนเฮนเดอร์สัน ในขณะที่เหลือเวลาอีก 13 นาที ส่วนโอริกี เกือบถึงบอลที่สมิธเปิดมาให้ สุดท้าย เกมจบลงด้วยผลเสมอแบบไร้สกอร์